"คุณหญิงปัทมา" ปลื้มขนไก่ไทย สอย 4 แชมป์ ในสัปดาห์เดียว

 

          คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยถึงผลงานของทัพนักตบลูกขนไก่ไทยว่า สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นักกีฬาแบดมินตันไทยสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอีกครั้ง และเป็นการทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง คว้า 4 แชมป์รายการระดับนานาชาติภายใน 1 สัปดาห์ คือ 2 แชมป์ "กรังด์ปรีซ์ โกลด์" ในศึก "บิตเบอร์เกอร์ โอเพ่น" จากหญิงเดี่ยว "แน็ต" ณิชชาอร จินดาพล และหญิงคู่ "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธรากุล-"วิว" รวินดา ประจงใจ และ 2 แชมป์ในศึก "เบียร์ ลาว อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรี่ส์" จากชายเดี่ยว "ซาบ" กันตวัฒน์ ลีลาเวชบุตร และหญิงคู่ "พลอย" ณัชชา แสงโชติ-"แบม" กิตติภัค ดับทุกข์ และในรายการเดียวกันนี้ยังได้อีก 3 รองแชมป์ด้วย ซึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ "โอ๊ต"สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ ก็เพิ่งได้รองแชมป์ "อินโดนีเซีย อินเตอร์เนชั่นแนล ชาลเลนจ์" ด้วย

          คุณหญิงปัทมา กล่าวว่า จากผลงานทั้งหมดนี้ต้องชื่นชมนักกีฬาทุกคนที่มุ่งมั่นฝึกซ้อมเป็นอย่างดีมาโดยตลอด รวมถึงการดูแลของทีมงานผู้ฝึกสอนนำโดยโค้ชเร็กซี่ ไมนากี้ ซึ่งบ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่านักกีฬาแบดมินตันไทยมีพัฒนาการทักษะการเล่น และสภาพจิตใจดีขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี คณะผู้บริหารสมาคมฯ ก็ยังคงไม่หยุดการพัฒนานี้ และเพราะในปีหน้าเรามีงานใหญ่ระดับโลกรออยู่คือการเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันทีมชาย และทีมหญิงชิงแชมป์โลก "โธมัส-อูเบอร์ คัพ" ในวันที่ 20-27 พ.ค.60 และการประชุมคณะกรรมการบริหารสหพันธ์แบดมินตันโลก ที่จะมีผู้เข้าร่วมประชุมจากทั่วโลก

          คุณหญิงปัทมา กล่าวอีกว่า หลังจากนี้นักแบดมินตันไทยจะได้พักประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนออกเดินทางไปแข่งขันรายการใหญ่ทั้ง "ไชน่า โอเพ่น ซูเปอร์ซีรี่ส์ พรีเมียร์" ในวันที่ 14-19 พ.ย. ที่เมืองฟูโจว ประเทศจีน ต่อด้วย "โยเน็กซ์-ซันไรส์ ฮ่องกง โอเพ่น ซูเปอร์ซี่รี่ส์" ในวันที่ 21-26 พ.ย. ที่เกาะเกาลูน ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ซึ่งเป็นโค้งสุดท้าย ซึ่งนักกีฬาแต่ละประเภทจะลุ้นติด 8 อันดับแรกเพื่อไปแข่งขันรายการ "เวิลด์ ซูเปอร์ซีรี่ส์ ไฟนอล" ในวันที่ 13-17 ธ.ค. ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์ ต่อไป จึงขอให้แฟนกีฬาชาวไทยช่วยส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาแบดมินตันไทยต่อไป

          ทั้งนี้ ทัพนักกีฬาแบดมินตันไทยที่คว้าแชมป์ "บิตเบอร์เกอร์ โอเพ่น" จะเดินทางกลับด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG923 ถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ในวันที่ 7 พ.ย. เวลา 13.35 น. โดยออกจากประตู 4 ชั้น 2