ความคืบหน้าในการเตรียมจัดการแข่งขันแบดมินตัน อาคาเดมี ชาลเลนจ์ "ยู-23 ไทย ลีก 2017"

ความคืบหน้าในการเตรียมจัดการแข่งขันแบดมินตัน อาคาเดมี ชาลเลนจ์

ความคืบหน้าในการเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดการแข่งขันแบดมินตัน อาคาเดมี ชาลเลนจ์ "ยู-23 ไทย ลีก 2017" ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 5 สนาม เริ่มสนามแรก วันที่ 18-20 ส.ค.60 ที่ จ.ภูเก็ต, สนามที่สอง วันที่ 25-27 ส.ค.60 ที่ จ.นนทบุรี, สนามที่สาม วันที่ 1-3 ก.ย.60 ที่ จ.นครสวรรค์, สนามที่สี่ วันที่ 8-10 ก.ย.60 ที่เซ็นทรัล พลาซา เวสต์เกต และรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 22-24 ก.ย.60 ที่ ห้างสรรพสินค้า เทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้นักกีฬาแบดมินตันไทยทั่วประเทศ มีโอกาสพัฒนาฝีมือเพื่อมุ่งสู่ความเป็นนักกีฬาอาชีพ

 

ล่าสุด คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า หลังจากสมาคมฯ ได้จัดประชุมร่วมกับสโมสรสมาชิกถึงแนวทางการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ทำให้ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการวางรากฐานการจัดการแข่งขันแบบลีกให้มีความแข็งแกร่งขึ้น นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการร่วมมือร่วมใจกันเพื่อพัฒนานักกีฬาแบดมินตันของประเทศไทย อย่างไรก็ดี ความเป็นมาของลีกที่จะจัดขึ้นนี้ เริ่มมาจากการที่สมาคมฯ ได้จัดการแข่งขันรายการ "เอสซีจี ไทยแลนด์ โอเพ่น" เมื่อ 2 ปีก่อนได้อย่างมีมาตรฐาน จนกีฬาแบดมินตันได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นหนึ่งในกีฬาอาชีพของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อจุดประกายให้การแข่งขันในรูปแบบนี้เกิดขึ้นเป็นเงิน จำนวน 4 ล้านบาท

 

"เราได้นำข้อมูลการจัดการแข่งขันแบบลีกของประเทศต่าง ๆ ทั้ง อินเดีย, มาเลเซีย, จีน, อินโดนีเซีย และอีกหลายประเทศที่ประสบความสำเร็จ มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเทศไทย และการแข่งขันครั้งนี้มีจุดประสงค์สำคัญที่มุ่งเน้นในการเปิดโอกาสให้นักกีฬาที่มีอายุระหว่าง 19-23 ปีบางส่วนที่ยังไม่ได้รับโอกาสเดินทางไปแข่งขันเก็บคะแนนรายการระดับนานาชาติในต่างประเทศ ให้ได้มีรายการแข่งขันเพื่อพัฒนาทักษะฝีมือได้อีกทางหนึ่ง" คุณหญิงปัทมา กล่าว

 

คุณหญิงปัทมา กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดี สมาคมฯ ยินดีรับฟังทุกข้อคิดเห็นจากทุกสโมสรสมาชิก และจะนำข้อเสนอแนะไปปรับปรุงและพัฒนาการจัดการแข่งขันแบบลีกของประเทศไทยให้เหมาะสมกับสภาวะแวดล้อมและรองรับความต้องการของทั้งในส่วนของการกีฬาแห่งประเทศไทยและของสโมสรสมาชิกให้มากที่สุด ดังนั้น เชื่อว่าในการจัดการแข่งขันปีต่อ ๆ ไป จะมีรูปแบบ รวมถึงมาตรฐานการจัดการแข่งขันแบบลีกที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างแน่นอน