"คุณหญิงปัทมา" ใช้ศึก "เวิลด์ ทัวร์" เช็คความพร้อม ก่อนปี 2019 ตะลุยเก็บคะแนน อลป. ลุ้นนักกีฬาไทย เข้าชิง
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “สำหรับศึกแบดมินตันรายการใหญ่ส่งท้ายปี "เอชเอสบีซี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล 2018" ระหว่างวันที่ 12-18 ธ.ค.นี้ ชิงเงินรางวัล 1,500,000 ดอลลาร์สหรัฐ ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน ซึ่งเป็นการรวมนักตบลูกขนไก่ที่ทำคะแนนสะสมติดอันดับ 1- 8 ของโลกในปี 2561 นี้ ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่นักกีฬาแบดมินตันไทยคว้าสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันได้ทั้ง หญิงเดี่ยว "เมย์" รัชนก อินทนนท์, ชายเดี่ยว "กัน" กันตภณ หวังเจริญ, หญิงคู่ "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธารากุล-"วิว" รวินดา ประจงใจ และ คู่ผสม "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์-"ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย”
คุณหญิงปัทมา กล่าวอีกว่า “สำหรับ "เมย์ รัชนก" เป็นนักกีฬาแบดมินตันที่น่าชื่นชม เพราะสามารถยืนระยะและรักษาระดับการเล่นได้เป็นอย่างดี โดยไปแข่งขันรายการนี้เป็นครั้งที่ 6 ในรอบ 7 ปี “เมย์” คว้าแชมป์ 1 รายการในปีนี้ และล่าสุดคืนฟอร์มทำผลงานในรายการ "โยเน็กซ์ ซันไรส์ ฮ่องกง โอเพ่น" ได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้จะไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ก็ตาม ซึ่งเราให้กำลังใจ“เมย์” ว่า “เมย์” จะทำผลงานเข้ารอบชิงฯ หรือคว้าแชมป์ส่งท้ายเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับแฟนกีฬาชาวไทยด้วย ขณะที่ “กัน” กันตภณ เป็นดาวรุ่งที่ฟอร์มแรงขึ้นมาเป็นลำดับ โดยเริ่มต้นปีด้วยอันดับ 58 ของโลก จนปัจจุบัน เป็นมืออันดับ 17 ของโลก จึงถือเป็นโอกาสดีที่ “กัน” จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และเตรียมความพร้อมเพื่อเก็บคะแนนสะสม มุ่งสู่โอลิมปิกเกมส์ในปีหน้า เช่นเดียวกับหญิงคู่ "กิ๊ฟ-วิว" ที่มุ่งมั่นเตรียมตัวฝึกซ้อมอย่างหนัก สำหรับรอบไฟนอลในครั้งนี้ จากการไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการแข่งขันต่าง ๆ ทำให้ได้ประมือกับนักกีฬาระดับท็อปของโลก เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาฝีมือ รวมทั้งยังต้องพิสูจน์ฟอร์มของพวกเขา หากต้องการคว้าตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายโอลิมปิกเกมส์ให้ได้ ขณะที่คู่ "บาส-ปอป้อ" ซึ่งปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นการเรียกความมั่นใจและจังหวะการเล่นกลับมาของปอป้อ ที่บาดเจ็บไปนาน และโชว์ฟอร์มร้อนแรงในช่วง 4-5 ทัวร์นาเมนต์หลัง โดยปราบมือชั้นนำได้มากมายหลายคู่ เชื่อว่า ในรายการนี้ "บาส-ปอป้อ" ซึ่งลงแข่งในฐานะมือวางอันดับ 3 พร้อมกับฟอร์มการเล่นที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงนี้ ทำให้เชื่อว่า โอกาสที่ "บาส-ปอป้อ" จะผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกมีสูงและมีลุ้นเข้ารอบชิงชนะเลิศ และอาจสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์รายการนี้ได้”
“เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งสำหรับประเภทชายคู่ ซึ่งเป็นประเภทเดียวที่นักกีฬาไทยไม่สามารถผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบสุดท้ายได้สำเร็จ เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บของ “ดีโก้” กิตติศักดิ์ นามเดช ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนคู่ในช่วงกลางปี แต่ในขณะนี้ นับเป็นข่าวดีที่ “ดีโก้” เริ่มลงทำการฝึกซ้อมได้แล้ว และจะเริ่มกลับมาทำการแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมได้ในช่วงต้นปี 2019”
“โดยส่วนตัว เชื่อว่านักกีฬาทั้ง 6 คน จะทำผลงานได้อย่างดีในรูปแบบการแข่งขันที่จะแบ่งสายเป็น 2 สาย ๆ ละ 4 คน แข่งแบบพบกันหมดในสาย เพื่อเอาอันดับ 1 และ 2 ในสาย ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศต่อไป จะเห็นได้ว่าในการแข่งขันรอบแรกต้องลงเล่นถึง 3 ครั้ง โดยแต่ละคน ต้องพบกับนักกีฬาระดับท็อปของโลกด้วยกันทั้งนั้น จึงทำให้นักกีฬาต้องมีการเตรียมสภาพร่างกาย ตลอดจนความฟิตซ้อมที่สมบูรณ์เต็มที่ ขณะนี้ คงต้องรอการจับสลากแบ่งสายการแข่งขันก่อนว่า จะอยู่ร่วมสายกับใครบ้าง”
"สำหรับในช่วงต้นปีหน้า ถือว่าเป็นช่วงที่มีความสำคัญมาก เพราะนักกีฬาจะต้องทำคะแนนสะสมอันดับโลกให้พร้อมเพื่อเตรียมเก็บคะแนนไปแข่งขันรอบสุดท้ายกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ซึ่งจะเก็บคะแนนระหว่างวันที่ 29 เม.ย. 2019 ถึง 26 เม.ย. 2020 ที่สำคัญคือนักกีฬาทั้ง 6 คน จะเป็นกำลังสำคัญของทีมกีฬาแบดมินตันไทยกับการสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญรางวัลแรกในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันนักกีฬาหลายชาติมีการพัฒนาเป็นอย่างมาก และยังมีนักกีฬาที่เลิกเล่นไปแล้วกลับมาลงสนาม อาทิ ลี ยอง แด-คิม กิจุง ชายคู่ จากเกาหลีใต้ ที่เพิ่งคว้า 2 แชมป์ระดับซูเปอร์ 300 จากที่ลงแข่งขันทั้งหมด 5 รายการ และยังจะมียอดฝีมืออีกมากมายที่จะเป็นคู่แข่ง ดังนั้น การลุ้นหยิบโควต้าโอลิมปิกเกมส์ จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันอย่างสนุกและเข้มข้นแน่นอน จึงขอให้แฟนกีฬาชาวไทยโปรดร่วมเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาไทยด้วย" คุณหญิงปัทมา กล่าว