"ต้นน้ำ" นิพิฐพนธ์ กับ "เอ็มเอ็ม" สาวิตรี คว้ารองแชมป์ "บังการ์ เบลิตุง อินโดนีเซีย มาสเตอร์ 2018"
การแข่งขันแบดมินตัน ระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 100 รายการ “บังการ์ เบลิตุง อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส 2018'' ชิงเงินรางวัลรวม 75,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2,400,000 บาท ที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการชิงชัยในรอบชิงชนะเลิศ โดยมี ''ต้นนํ้า'' นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร กับ "เอ็มเอ็ม" สาวิตรี อมิตรพ่าย คู่มือวางอันดับ 4 ของรายการ คู่มืออันดับ 72 ของโลก คู่ผสมของไทย พบกับ รินอฟ ริวัลดรี้ กับ พิตต้า เมนทารี่ คู่มือวางอันดับ 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 56 ของโลกจากอินโดนีเซีย
สำหรับผลการแข่งขันนัดนี้ปรากฎว่า ''ต้นนํ้า'' นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร กับ "เอ็มเอ็ม" สาวิตรี อมิตรพ่าย แพ้ รินอฟ ริวัลดรี้ กับ พิตต้า เมนทารี่ จากอินโดนีเซีย 0-2 เกม 19-21 18-21
หลังการแข่งขัน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดี กับ ต้นน้ำ และ เอ็มเอ็ม กับความสำเร็จที่ได้รองแชมป์ ถึงแม้ว่า วันนี้เราไม่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศกลับมาได้ แต่การที่ทั้งคู่สามารถทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง หลังจากคว้าแชมป์ที่เวียดนาม ในรายการเก็บคะแนนสะสม ระดับเดียวกันคือ World Tour Super 100 มาแล้ว แม้ในรอบชิงชนะเลิศ รายการที่อินโดนีเซีย ''ต้นนํ้า'' กับ "เอ็มเอ็ม" คู่ผสมของไทย จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ได้ตำแหน่งรองแชมป์ แต่ก็ถือว่าทั้งคู่ได้พยายามกันอย่างเต็มที่แล้ว แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม สู้ในทุกจังหวะกับคู่แข่งที่เป็นเจ้าถิ่น ซึ่งต้องยอมรับว่าคู่ผสมคู่นี้ของไทยได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว แม้วันนี้เราจะยังไม่ชนะ แต่เชื่อมั่นเหลือเกินว่า ด้วยความมุมานะ และการเรียนรู้อันนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ จะส่งผลให้สามารถพัฒนาทักษะฝีมือ และประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน รวมถึงอันดับโลก จะขยับดีขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกัน
เพราะถึงแม้รายการ “บังการ์ เบลิตุง อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส 2018'' จะเป็นการแข่งขันระดับซูเปอร์ 100 แต่การเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นมหาอำนาจของโลกในด้านกีฬาแบดมินตัน นับเป็นเรื่องที่ยาก ทั้ง “ต้นน้ำ” และ “เอ็มเอ็ม” เป็นนักกีฬาที่มีทั้งประสบการณ์ มีวินัยและความตั้งใจ เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับรุ่นน้อง อีกทั้งการนำเอาทั้งสองคนมาจับคู่กัน ทำให้ต้องเริ่มลงแข่งขันเก็บคะแนนสะสมในรายการระดับซูเปอร์ 100 ก่อน ทั้งนี้ เป็นการวางแผนล่วงหน้าของสตาฟโค้ช เพราะในขณะนี้ ประเทศไทย มีนักกีฬาคู่ผสมระดับแนวหน้าของโลกอยู่เพียงคู่เดียว คือ “บาส” กับ “ปอป้อ” ซึ่งเราต้องเตรียมคู่ผสมเพิ่มไว้เพื่อรองรับการแข่งขันทีมผสมชิงแชมป์โลก สุธีรมานคัพ ในปลายปีหน้าด้วย” คุณหญิงปัทมา กล่าว