"เพชร" โฆษิต เพชรประดับ คว้ารองแชมป์ "Daihatsu Yonex Japan Open 2018"
"เพชร" โฆษิต เพชรประดับ คว้ารองแชมป์ "Daihatsu Yonex Japan Open 2018"
การแข่งขันแบดมินตัน รายการ "Daihatsu Yonex Japan Open 2018" ชิงเงินรางวัลรวม 700,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 23,100,000 บาท ทัวร์นาเมนท์ในระดับ HSBC BWF World Tour Super 750 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 11-16 ก.ย. 61
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 ก.ย. เป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ โดยมีนักกีฬาจากประเทศไทยลงสนามทำการแข่งขันเพียงคนเดียวในประเภทชายเดี่ยว คือ "เพชร" โฆษิต เพชรประดับ ลงสนามแข่งขัน กับ เคนโตะ โมโมโตะ จากญี่ปุ่น
ผลการแข่งขัน "เพชร" โฆษิต เพชรประดับ มืออันดับ 26 ของโลก พ่ายให้กับ เคนโตะ โมโมโตะ มืออันดับ 3 ของรายการ มืออันดับ 4 ของโลก จากญี่ปุ่น 0-2 เกม สกอร์เกมแรก 14-21 จบเกมที่สอง 11-21 ใช้เวลาแข่งขัน 48 นาที
"เพชร" โฆษิต เพชรประดับ คว้ารองแชมป์ประเภทชายเดี่ยวในรายการ "Daihatsu Yonex Japan Open 2018"
หลังจบเกมการแข่งขัน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “ขอชื่นชมเพชรที่ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ และคว้ารองแชมป์ในทัวร์นาเมนท์ระดับ Super 750 ได้เป็นครั้งแรก เพชรได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าเพชรมีดีเกินกว่าที่ทุกคนคิด พิสูจน์แล้วว่า เพชร เป็น เพชร และเล่นด้วยใจฮึกเหิมในทุกแต้มของการแข่งขัน แม้ในวันนี้จะแพ้ให้กับโมโมตะ แชมป์โลกคนล่าสุด ถือว่าผลงานครั้งนี้ทำได้ดีมาก เพชรเป็นนักแบดมินตันที่มีเทคนิคดี มีเกมรับที่เหนียวแน่น และพัฒนาฝีมือทำผลงานดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นับจากที่ได้เหรียญเงินจากซีเกมส์เมื่อปีที่แล้ว จนถึงรายการล่าสุดที่เอเชี่ยนเกมส์ก็ทำได้ดี พลาดท่าแพ้ให้กับนักแบดมินตันจากอินโดนิเซีย แบบหวุดหวิดในเกมที่สาม จนมาถึงรายการนี้ที่เจแปนโอเพ่น ทำผลงานได้ถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะเห็นได้ว่า เพชรมีพัฒนาการดีขึ้นมาก ทั้งนี้ น่าจะเป็นผลมาจากการมุมานะตั้งใจขยันฝึกซ้อม ทำร่างกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้มีความมั่นใจในพละกำลัง จึงกล้าที่จะเล่นเกมบุก และเกมส์หน้าเน็ต จนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของเพชรในการขึ้นแท่นรายการ 750 ครั้งแรก หลังจากการแข่งขัน คงต้องกลับมาปรับปรุง เพิ่มเติม แก้ไข ในบางจุดที่มีปัญหา คิดว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ เพชร มีโอกาสที่จะพัฒนาตัวเองเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อไป เพื่อเข้าไปติด อันดับ 1-10 ของโลก ได้” คุณหญิงปัทมากล่าว