"ติณณ์-กิตติศักดิ์"ฟอร์มแรงควํ่าเหรียญเงิน อลป.เข้าชิง
การแข่งขันแบดมินตันทัวร์นาเมนท์แรกของสหพันธ์แบดมินตันโลกในปี 2018 ในศึก "ปริ้นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2018" พรีเซ้นเท็ด บาย เครือเจริญโภคภัณฑ์ และทรู คอร์ปอเรชั่น ชิงถ้วยประทานพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พร้อมเงินรางวัลรวม 150,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5,000,000 บาท ทัวร์นาเมนท์เก็บคะแนนสะสมคะแนนอันดับโลกของสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) ในระดับ HSBC BWF World Tour – Super 300 ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพฯ เมื่อวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2561 เป็นการลงสนามแข่งขันวันที่ห้า ในรอบรองชนะเลิศ
ประเภทชายคู่รอบรองชนะเลิศ "ติณ" ติณณ์ อิสริยะเนตร กับ "ดีโก้" กิตติศักดิ์ นามเดช คู่มืออันดับ 55 ของโลก ชนะ เจ้าของเหรียญเงิน อลป. 2016 โก๊ะ วีแชม กับ ตัน วีเคียง คู่มือวาง 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 29 ของโลกจากมาเลเซีย 21-15,22-20 ใช้เวลาแข่งขัน 35 นาที ติณณ์ กับ กิตติศักดิ์ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ วายู นายากา อาย่า กับ อาดี้ ยูซูฟ ซานโตโซ คู่มือวาง 7 ของรายการ คู่มืออันดับ 38 ของโลกจากอินโดนีเซีย เอาชนะ แบรี่ แองเกรียวาน กับ ฮาเดรียนโต ฮาเดรียนโต คู่มือวาง 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 16 ของโลกจากอินโดนีเซีย 21-17, 21-17
ประเภทหญิงเดี่ยวรอบรองชนะเลิศ "แน๊ต" ณิชชาอร จินดาพล มือวางอันดับ 1 ของรายการ มืออันดับ 13 ของโลก ที่สามารถพลิกสถานการณ์หลังจากที่พลาดท่าพ่ายไปก่อนในเกมแรก ก่อนที่จะมาฮึดเร่งเครื่องทำคะแนนกลับมาแซงชนะ โซเนีย เชี๊ยะ มือวางอันดับ 4 ของรายการ มืออันดับ 29 ของโลกจากมาเลเซีย ไปได้แบบสุดมันส์ 2-1 เกม 16-21, 21-15, 21-17 ใช้เวลาแข่งขัน 72 นาที ณิชชาอร ผ่านเข้าไปลุ้นแชมป์กันเองกับรุ่นน้องอย่าง "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มือวางอันดับ 3 ของรายการ มืออันดับ 23 ของโลก สามารถกลับมาพลิกสถานการณ์ได้ทันหลังจากที่เกมแรกเล่นพลาดเสียเองเป็นชุดๆ ก่อนที่จะมาฮึดเร่งเครื่องทำคะแนนกลับมาแซงชนะ เซวาดุเร คีโซน่า มืออันดับ 97 ของโลกจากมาเลเซีย ไปได้หวุดหวิด 2-1 เกม 14-21 21-9 21-11 ใช้เวลาแข่งขัน 50 นาที
ประเภทคู่ผสมรอบรองชนะเลิศ "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "เอิร์ธ" พุธิตา สุภจิรกุล. คู่มือวาง 7 ของรายการ คู่มืออันดับ 88 ของโลก ยังคงทำผลงานได้ดีใช้ความเก๋าเกมที่เหนือกว่าวางเกมทำคะแนนเอาชนะคู่ดาวรุ่ง ถัง เจียเฉิน กับ เหยิน เหว่ยเพ๊ก จากมาเลเซีย ไปได้ขาดลอย 2-0 เกม 21-19 21-13 ใช้เวลาแข่งขัน 30 นาที เดชาพล กับ พุธิตา ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับศึกหนัก เจ้าของเหรียญเงิน อลป.2016 ชาง เป็งสุน กับ โก๊ะ หลิวหยิง คู่มือวาง 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 58 ของโลกจากมาเลเซีย ที่เอาชนะ "ต้นน้ำ" นิพิฐพงษ์ พวงพั่วเพชร กับ "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธรากุล คู่มืออันดับ 45 ของโลก มาได้ 2-0 เกม 21-15 21-11 ใช้เวลาแข่งขัน 32 นาที
ประเภทชายเดี่ยวรอบรองชนะเลิศ "กัน" กันตภณ หวังเจริญ รองแชมป์เก่า มืออันดับ 58 ของโลก พลาดท่าแผ่วปลายพ่ายให้กับ รองแชมป์เยาวชนโลก 2017 เหลียง จุนหัว มืออันดับ 215 ของโลกจากมาเลเซียไปอย่างน่าเสียดาย 1-2 เกม 22-20,19-21,18-21 ใช้เวลาแข่งขัน 76 นาที
ประเภทชายคู่รอบรองชนะเลิศ วายู นายากา อาย่า กับ อาดี้ ยูซูฟ ซานโตโซ คู่มือวาง 7 ของรายการ คู่มืออันดับ 38 ของโลกจากอินโดนีเซีย เอาชนะ แบรี่ แองเกรียวาน กับ ฮาเดรียนโต ฮาเดรียนโต คู่มือวาง 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 16 ของโลกจากอินโดนีเซีย 21-17, 21-17
ประเภทหญิงคู่รอบรองชนะเลิศ "เอ็มเอ็ม" สาวิตรี อมิตรพ่าย กับ "มุก" พชรพรรณ ช่อชูวงศ์ คู่มืออันดับ 68 ของโลก พ่ายให้กับ แองเกีย ซินต้า อวานด้า กับ มาฮาเดวี่ อิสตารานี่ คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 20 ของโลก จากอินโดนีเซีย ไป 0-2 เกม 14-21,18- 21 ใช้เวลาแข่งขัน 40 นาที
ประเภทหญิงคู่รอบรองชนะเลิศ "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิตติธรากุล กับ "วิว" รวินดา ประจงใจ คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 10 ของโลก ช่วยกันไล่ตบทำคะแนนเฉือนชนะ โชว เหม่ยกวน กับ ลี เหม็งหยวน คู่มือวางอันดับ 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 21 ของโลกจากมาเลเซีย ไปได้หวุดหวิด 2-1 เกม 18-21, 21-13, 21-17 ใช้เวลาแข่งขันนานถึง 78 นาที จงกลพรรณ กับ รวินดา ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ แองเกีย ซินต้า อวานด้า กับ มาฮาเดวี่ อิสตารานี่ คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 20 ของโลก จากอินโดนีเซีย
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับนักกีฬาที่ช่วยกันทำผลงานจนผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ถึง 4 ประเภท โดยเฉพาะในประเภทหญิงเดี่ยว นักกีฬาของไทยสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศกันเอง ทำให้สามารถรักษาถ้วยประทานพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เอาไว้ในประเทศไทยได้อีกสมัยอย่างแน่นอน ขอขอบคุณแฟนกีฬาแบดมินตันชาวไทยที่เข้ามาให้กำลังใจนักกีฬาในสนามกันอย่างมากมาย ซึ่งนับเป็นส่วนที่สำคัญมาก ที่ทำให้นักกีฬาของเรามีพลังต่อสู้กับคู่แข่งได้อย่างยอดเยี่ยม ในการแข่งขันครั้งนี้เราจะเห็นว่าหลายๆชาติ พยายามสร้างนักกีฬาหน้าใหม่ ฝีมือดีขึ้นมาอย่างมากมาย โดยเฉพาะมาเลเซียและอินโดนีเซีย ทำให้ทางทีมงานผู้ฝึกสอนของเราจะต้องพัฒนาฝีมือนักกีฬาของเราให้พร้อมต่อสู้กับนักกีฬาต่างชาติอย่างหนักมากขึ้น และขอแสดงความห่วงใยสำหรับนักกีฬาที่บาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็น อาร์ท ครีม เอ ปอป้อ และจ๋อมแจ๋ม ขอให้ทุกคนหายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว และกลับมาฝึกซ้อมทำผลงานสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยโดยเร็วต่อไป”
สำหรับผู้ที่ไม่สามารถไปชมการแข่งขันที่สนามได้ สามารถชมการถ่ายทอดสด
วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม 2561 รอบชิงชนะเลิศ ตั้งแต่เวลา 13.00 น.
ทางช่อง True Sport HD 1 (666), True Sport HD 7 (686) ,แอพพลิเคชั่น TrueID
และดิจิตอลทีวี ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 ถ่ายทอด ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ถึง 18.00 น.
