นักแบดมินตันชุดประวัติศาสตร์ กลับไทย หลังเป็นเจ้าเหรียญทองแบดมินตันซีเกมส์ ครั้งที่ 29
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2560 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทัพนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย ที่เข้าแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG416 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 14.30 น. หลังสร้างประวัติศาสตร์เป็นเจ้าเหรียญทองกีฬาแบดมินตัน โดยคว้ามาได้ถึง 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง ซึ่งถือเป็นการคว้าเหรียญทองและเหรียญรางวัลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแหลมทอง หรือ เซียพเกมส์ ครั้งที่ 1 ที่กรุงเทพมหานคร เมื่อปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) หลังจากเคยได้มากที่สุด 3 เหรียญทอง ในกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 2 ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อปี พ.ศ.2504 (ค.ศ.1961) ขณะเดียวกัน ทรัพย์สิรี, เดชาพล, จงกลพรรณ และรวินดา เป็นนักกีฬาแบดมินตันไทยต่อจาก เพ็ญแข โพธิ์งาม ที่คว้าได้ถึง 2 เหรียญทองภายในการแข่งขันครั้งเดียว โดย เพ็ญแข ได้จากประเภทหญิงคู่ กับ สุมล จันทร์กล่ำ และคู่ผสม กับ ระพี กาญจนระพี ในกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 2 ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อปี พ.ศ.2504 (ค.ศ.1961)
โอกาสนี้ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เดินทางไปต้อนรับพร้อมนำช่อดอกไม้แสดงความยินดีไปมอบให้ทัพนักกีฬาแบดมินตันไทยและผู้ฝึกสอนด้วยตัวเอง โดยมีแฟน ๆ และบรรดาสื่อมวลชนร่วมให้การต้อนรับอย่างเนืองแน่น
คุณหญิงปัทมา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของกีฬาแบดมินตันไทยในรอบ 58 ปีของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ซึ่งเราได้ทั้งเข้าชิงชนะเลิศมากที่สุดและเป็นเจ้าเหรียญทอง โดยคว้ามาได้ถึง 4 เหรียญทอง จากทั้งหมด 7 เหรียญทอง รวมทั้งได้เหรียญรางวัลรวมถึง 10 เหรียญ ซึ่งมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์เช่นเดียวกัน จึงถือเป็นความสำเร็จสมกับที่วางแผนและฝึกซ้อมกันมาด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเท และขอให้ใช้บทเรียนที่ได้รับจากการแข่งขันครั้งนี้เป็นพื้นฐานและเป็นพลังในการพัฒนาทักษะและขีดความสามารถให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ในโอกาสนี้ ขอขอบคุณและชื่นชมผู้จัดการทีม พลตำรวจโท วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ฝึกสอน ทีมงาน รวมถึง นักกีฬาทุกคนที่เสียสละตัดสินใจลงเล่นรับใช้ชาติในกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ รวมทั้งขอยินดีเป็นอย่างยิ่งกับ ทรัพย์สิรี, เดชาพล, จงกลพรรณ และรวินดา ที่คว้าได้ถึง 2 เหรียญทองในการแข่งขันครั้งเดียว ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์เช่นเดียวกัน แต่ที่เป็นห่วงอย่างมากในตอนนี้ คือ อาการของ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี ที่บาดเจ็บระหว่างการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศหญิงคู่ ซึ่งต้องรอผลการตรวจที่แน่นอนจากการ MRI ก่อน หวังว่าคงจะไม่เป็นอะไรมาก โดยในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ ปอป้อมีกำหนดการเข้าร่วมแข่งขันรายการใหญ่ระดับซูเปอร์ซีรี่ส์ "โคเรีย โอเพ่น" ที่เกาหลีใต้
คุณหญิงปัทมา กล่าวอีกว่า “สำหรับการแข่งขันกีฬาแบดมินตันในกีฬามหาวิทยาลัยโลก ขอแสดงความยินดีกับทีมชุดกีฬามหาวิทยาลัยโลกที่สามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยมคือ หญิงคู่ เบส-จ๋อมแจ๋ม ได้เหรียญเงิน และ ชายเดี่ยว ตะวัน ได้เหรียญทองแดง รวมทั้ง ทีมผสมได้เหรียญทองแดง รวมถึง การแข่งขันกีฬาแบดมินตันชิงแชมป์โลก แม้เมย์และสองจะไม่ได้แชมป์ แต่ทั้งสองคนก็ทำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจ คือ เมย์เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย และสองเข้ารอบ 16 คนสุดท้าย สำหรับการดำเนินการในช่วงต่อไปของสมาคมฯ จะมุ่งเน้นในการวางรากฐานเพื่อการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ทั้งการคัดสรรผู้ฝึกสอนเพิ่มเติม การทำงานร่วมกับสโมสร การพัฒนาสนามฝึกซ้อม และการสนับสนุนนักกีฬาเยาวชน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลกประเภททีม "โทมัสคัพ - อูเบอร์คัพ 2018" ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ในเดือนพฤษภาคมปีหน้า รวมทั้งกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย เพราะเราหวังที่จะทำผลงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อต่อยอดสู่โอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2563 (ค.ศ. 2020) ซึ่งเป้าหมายของเราคือคว้าเหรียญรางวัลมาครองให้ได้เป็นครั้งแรก รวมถึง การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งถือว่าเป็นงานหนัก ที่เราจะต้องรักษามาตรฐานเอาไว้ให้ได้ ท้ายที่สุด ต้องขอขอบคุณกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่ให้การสนับสนุนการพัฒนานักกีฬาแบดมินตันของสมาคมฯ เป็นอย่างดีตลอดมา จนนำมาซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้"
สรุปผลงานของทัพนักแบดมินตันไทยในซีเกมส์ 2017
4 เหรียญทอง
- ประเภททีมหญิง
- ประเภทชายคู่ "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "สกาย" กิตตินุพงษ์ เกตุเรน
- ประเภทหญิงคู่ "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ "วิว" รวินดา ประจงใจ
- ประเภทคู่ผสม "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย
2 เหรียญเงิน
- ประเภทชายเดี่ยว "เพชร" โฆษิต เพชรประดับ
- ประเภทหญิงคู่ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย กับ "เอิร์ธ" พุธิตา สุภจิรกุล
4 เหรียญทองแดง
- ประเภททีมชาย
- ประเภทหญิงเดี่ยว "หมิว" พรปวีร์ ช่อชูวงศ์
- ประเภทชายคู่ "อาร์ท" บดินทร์ อิสสระ กับ "ต้นน้ำ" นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร
- ประเภทคู่ผสม "อาร์ท” บดินทร์ อิสสระ กับ "เอ็มเอ็ม" สาวิตรี อมิตรพ่าย
