"ปอป้อ-บาส" นำทัพลุ้นเบิ้ลทอง จ่อจารึกชื่อศึกขนไก่ "ซีเกมส์" "ปัทมา" ยิ้ม! ผลงานทะลุเป้า

 

 



          การแข่งขันแบดมินตันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ส.ค. รอบรองชนะเลิศ มีนักตบลูกขนไก่ทีมชาติไทยเข้ามาถึงรอบนี้ครบทั้ง 5 ประเภท โดยน่าสนใจอยู่ที่ ชายเดี่ยว "เพชร"โฆษิต เพชรประดับ มือ 2 ของรายการ ระเบิดฟอร์มได้อย่างสุดยอด เบียดชนะ อิห์ซาน มัวลาน่า มุสโตฟา มือ 3 ของรายการ จากอินโดนีเซีย 2 เกมรวด 21-10, 23-21 เข้าไปชิงชนะเลิศ และล้างตากับ โจนาธาน คริสตี้ มือ 1 ของรายการ จากอินโดนีเซีย ที่ชนะจอมเก๋า เหวียน เทียน มินห์ จากเวียดนาม 2-0 เกม 21-11, 21-16 ซึ่ง เพชร เจอกับ มือดีแดนอิเหนาในประเภททีม และแพ้มา 0-2 เกม

          หญิงเดี่ยว "หมิว"พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มือ 3 ของรายการ และแชมป์ประเทศไทย 2 สมัยล่าสุด พลาดท่าพ่าย โกห์ จิน เหว่ย ดีกรีแชมป์เยาวชนโลกปี ค.ศ.2015 จากมาเลเซีย 1-2 เกม 9-21, 21-10, 18-21 ส่งให้ ดาวรุ่ง เข้าไปชิงฯ กับ โซเนีย เชี๊ยะ มือ 4 ของรายการ จากมาเลเซีย ที่ชนะ เกรกอเรีย มาริสก้า จากอินโดนีเซีย 2-0 เกม 22-20, 21-13 ทำให้หญิงเดี่ยวไทย ได้เพียง 1 เหรียญทองแดง

          หญิงคู่ "ปอป้อ"ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย/"เอิร์ธ"พุธิตา สุภจิรกุล คู่มือ 1 ของรายการ ใช้เวลาเพียง 26 นาที เอาชนะ ธิ พวง ฮง ดินห์/ธิ ฮอย โด จากเวียดนาม 2-0 เกม 21-12, 21-5 เข้าไปชิงชนะเลิศกับ "กิ๊ฟ"จงกลพรรณ กิติะรากุล/"วิว"รวินดา ประจงใจ ที่พลิกสถานการณ์กลับมาชนะ คู่เจ้าภาพ มือ 2 ของรายการ วิเวียน หู/วู เค เหว่ย 2-1 เกม 17-21, 22-20, 21-17 ซึ่งทั้งคู่จะได้ลุ้นสร้างประวัติศาสตร์เป็นคู่หญิงไทยในรอบ 46 ปี ที่คว้าเหรียญทองได้ หลังจากคู่สุดท้ายคือ ทองคำ กิ่งมณี/อัจฉรา ปัตตพงศ์ ในกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 6 ที่มาเลเซีย เมื่อปี ค.ศ.1971

          ชายคู่ "บาส"เดชาพล พัววรานุเคราะห์/"สกาย"กิตตินุพงษ์ เกตุเรน คู่มือ 4 ของรายการ พลิกชนะ ฟาจาร์ อาลิเฟียน/มูฮัมหมัด เรียน อาเดรียนโต้ คู่มือ 2 ของรายการ จากอินโดนีเซีย 2-0 เกม 21-17, 23-21 เข้าไปชิงฯ กับ ออง ยิว ซิน/โท เอ อี้ คู่มือ 3 ของรายการ จากมาเลเซีย ที่โค่น "อาท"บดินทร์ อิสสระ/"ต้นน้ำ"นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร คู่มือ 1 ของรายการ 2-0 เกม 21-12, 21-15 โดยหากคู่ไทยชนะ ก็จะสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองประเภทชายคู่ได้ในรอบ 18 ปี หลังจากคู่สุดท้ายที่ทำได้คือ ปราโมทย์ ธีระวิวัฒน์ กับ เทศนา พันธ์วิศวาส ในซีเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่บรูไน เมื่อปี ค.ศ.1999

          คู่ผสม "บาส"เดชาพล พัววรานุเคราะห์/"ปอป้อ"ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือ 1 ของรายการ - ชาย เปง สูน/เชียะ อี้ ซี จากมาเลเซีย 2-1 เกม 21-16, 18-21, 23-21 เข้าไปเจอ โกห์ ซูน ฮวต/เชวอน เจมี่ ไล คู่มือ 2 ของรายการ ที่เฉือนชนะ "อาท"บดินทร์ อิสสระ/"เอ็มเอ็ม"สาวิตรี อมิตรพ่าย คู่มือ 4 ของรายการ 2-1 เกม 18-21, 26-24, 21-18 ทำให้ไทยมีลุ้นคว้าแชมป์ประเภทนี้ในรอบ 14 ปี หลังจากคู่สุดท้ายทำได้คือ สุดเขต ประภากมล/สราลีย์ ทุ่งทองคำ ในซีเกมส์ ครั้งที่ 22 ที่เวียดนาม เมื่อปี ค.ศ.2003 นอกจากนี้หาก ทรัพย์สิรี และเดชาพล คว้าเหรียญทองได้ทั้ง 2 ประเภทที่เข้าชิงฯ จะถือเป็นคนไทยคนที่ 2 ต่อจาก เพ็ญแข โพธิ์งาม ที่คว้าได้ถึง 2 เหรียญทองจากประเภทหญิงคู่ และคู่ผสม ในกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 2 ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อปี ค.ศ.1961

          คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ซีเกมส์ ครั้งที่แล้ว ทีมชาติไทยทำผลงานได้ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง แต่ครั้งนี้เราทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ 2 เหรียญทองแน่นอนแล้ว หลังจากได้เหรียญทองประเภททีมหญิง และเหรียญทองแดงประเภททีมชายมาแล้วก่อนหน้านี้ และในประเภทบุคคล ทีมชาติไทยเข้าชิงฯ 4 ประเภท คือ ชายเดี่ยว, หญิงคู่, ชายคู่ และ คู่ผสม หญิงคู่ได้เหรียญทองแน่นอน เพราะเข้าชิงกันเอง แม้หญิงเดี่ยวเราจะไม่สามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้ แต่ถือว่าทั้ง "ครีม"บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ และ "หมิว"พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มุ่งมั่นทำเต็มที่แล้ว และทั้งคู่อายุยังน้อย จึงขอให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์กลับมาแก้ไขจุดบกพร่องต่อไป

          คุณหญิงปัทมา กล่าวอีกว่า ครั้งนี้ถือว่านักตบลูกขนไก่ไทยทำผลงานได้เหรียญมากสุดในรอบหลายปี แต่ในรอบชิงฯ แน่นอนว่าของกองเชียร์เจ้าภาพจะเข้าไปชมกันแน่นสนามแน่นอน สิ่งสำคัญที่สุดคือนักกีฬาของไทยต้องคุมสมาธิ และเล่นตามแผนที่เตรียมมา ซึ่งไม่ว่าผลจะเป็นเช่นไรหากทุกคนทำเต็มที่แล้วคนไทยก็ถือว่าคุณคือฮีโร่ ขณะเดียวกันก็ขอให้ชาวไทยช่วยส่งแรงใจเชียร์นักแบดมินตันไทยกันมากๆ เพื่อให้เราสามารถคว้าเหรียญทองมาให้ได้มากสุด เพราะครั้งสุดท้ายที่เราทำได้ถึง 3 เหรียญทองต้องย้อนกลับไปในกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 2 ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อปี ค.ศ.1961 หรือกว่า 56 ปีที่แล้ว

          สรุปทัพนักตบลูกขนไก่ไทยเข้าชิงฯ 4 ประเภท คือ ชายเดี่ยว, หญิงคู่, ชายคู่ และ คู่ผสม โดยรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 29 ส.ค. เริ่มแข่งขันเวลา 12.00 น.(ตามเวลาประเทศไทย)