การแข่งขันแบดมินตันสะสมคะแนนอันดับโลก "เอสซีจี ไทยแลนด์ โอเพ่น กรังด์ปรีซ์ โกลด์ 2017" ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลรวม 120,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,960,000 บาท ที่อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. รอบชิงชนะเลิศ หญิงคู่ "เบสท์"ชญานิษฐ์ ฉลาดแฉลม/"จ๋อมแจ๋ม" ผไทมาส เหมือนวงศ์ คู่มืออันดับ 42 ของโลก พบคู่มืออันดับ 5 ของรายการ เกรเซีย โพลี่/อาพริลยานี่ ราฮายู จากอินโดนีเซีย ผลปรากฎว่าเกรเซีย โพลี่/อาพริลยานี่ ราฮายู จากอินโดนีเซีย คว้าแชมป์พร้อมรับเงินรางวัล 9,480 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 331,800 บาท ส่วน "เบสท์" ชญานิษฐ์ ฉลาดแฉลม/"จ๋อมแจ๋ม" ผไทมาส เหมือนวงศ์ ได้รองแชมป์และรับเงินรางวัล 4,560 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 159,600 บาท

          ด้านหญิงเดี่ยว เป็นการรีแมตช์รอบชิงปี ค.ศ.2013 "เมย์" รัชนก อินทนนท์ มืออันดับ 8 ของโลก และอันดับ 1 ของรายการ อดีตแชมป์ปี ค.ศ.2013 พบ "ครีม" บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ มืออันดับ 13 ของโลก และอันดับ 4 ของรายการ รองแชมป์เก่า 2 สมัยปี ค.ศ.2013, 2016 โดยครั้งนั้น รัชนก เอาชนะ 2-1 เกม 20-22, 21-19, 21-13 ส่วนสถิติการพบกัน 3 ครั้ง เมย์เอาชนะได้ทั้งหมด ส่วนครั้งนี้ปรากฎว่า "เมย์" รัชนก อินทนนท์ คว้าแชมป์พร้อมรับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเงินรางวัล 9,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 315,000 บาท ขณะที่ "ครีม" บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ ได้รองแชมป์ และรับเงินรางวัลปลอบใจ 4,560 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 159,600 บาท ถือได้ว่า"เมย์" รัชนก อินทนนท์ เป็นนักกีฬาแบดมินตันไทยคนแรกในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่จัดการแข่งขันรายการนี้มา 33 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ.1984 ที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้ถึง 2 สมัย ขณะที่นักกีฬาแบดมินตันหญิงเดี่ยวต่างชาติที่คว้าแชมป์รายการนี้ 2 สมัยมี หวัง เฉิน (จีน) ปี ค.ศ.1996-1997, เหยา เจี่ย (เนเธอร์แลนด์) ปี ค.ศ.2004-2005, ซู หลิน (จีน) ปี ค.ศ.2006-2007 ส่วนนักกีฬาแบดมินตันหญิงเดี่ยวที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้มากสุดคือ ซูซี่ ซูซานติ (อินโดนีเซีย) 4 สมัยติดต่อกัน ระหว่างปี ค.ศ.1991-1994

          คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับเมย์และครีมสำหรับการแข่งขันที่สนุกสนานตื่นเต้น ทั้ง 2 คนทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนประเทศไทยได้อย่างดีเยี่ยม ในวันนี้  เราได้เห็นเมย์ที่ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นในระดับโลก และครีมที่พัฒนาฝีมือขึ้นมาอย่างเด่นชัด จนอาจจะกล่าวได้ว่า ทั้ง 2 คนเป็นนักกีฬาระดับซูเปอร์สตาร์ในประเภทหญิงเดี่ยวของไทยในปัจจุบัน ฝากเป็นกำลังใจให้ทั้ง 2 คนอย่างต่อเนื่องต่อไป อีกไม่นานเชื่อว่าเรากำลังจะมีนักกีฬาระดับซูเปอร์สตาร์ประเภทหญิงเดี่ยวเพิ่มอีกอย่างน้อย 1-2 คน ทั้งหมดนี้จะเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทย ในการแข่งขันประเภททีมหญิงชิงแชมป์โลก "อูเบอร์คัพ" ในปีหน้า เราเชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพนักกีฬาประกอบกับทีมงานผู้ฝึกสอนที่มีคุณภาพ เราน่าจะได้ เฮ! กันในการแข่งขัน "อูเบอร์คัพ" ในปีหน้า

และขอแสดงความยินดีกับเบสท์และจ๋อมแจ๋ม ที่สามารถฝ่าฟันมาจนถึงรอบชิงชนะเลิศในวันนี้ ทั้งคู่มาไกลเกินกว่าที่ทุกคนคาดไว้ การแข่งขันตลอดช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นว่า เบสท์และจ๋อมแจ๋มมีการพัฒนาฝีมือ จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหญิงคู่อันดับมือต้น ๆ ของประเทศ ร่วมกับ เอิร์ธ/ปอป้อ และ  กิ๊ฟ/วิว สมาคมฯ เองจะดำเนินการส่งเสริมให้ทั้ง 2 คน มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และทั้ง 2 คนจะเป็นกำลังสำคัญในการแข่งขัน "อูเบอร์คัพ" ในปีหน้าเช่นเดียวกัน ซึ่งเราตั้งเป้าว่าทีมหญิงไทยจะสามารถทำผลงานได้ดี หากจังหวะและโอกาสเหมาะสม ความฝันในการเป็นแชมป์ "อูเบอร์คัพ" เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ น่าจะไม่ไกลเกินเอื้อม

สำหรับผลงานของนักแบดมินตันไทยคนอื่นๆ ถือว่าเป็นที่น่าชื่นชมไม่น้อยที่รายการนี้ นักกีฬาแบดมินตันไทยพัฒนาฝีมือจนทะลุเข้ารอบลึกทั้ง ชายเดี่ยว "ตะวัน" ปัณณวิชญ์ ทองน่วม หรือหญิงคู่ "เอ็มเอ็ม" สาวิตรี อมิตรพ่าย/"มุก" พชรพรรณ ช่อชูวงศ์ แม้จะไม่ได้เข้าชิง แต่ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม และเหนือความคาดหมาย ที่เข้ามาถึงรอบตัดเชือกได้ ขณะเดียวกัน ยอมรับว่าผิดคาดที่ คู่ผสม "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์/"ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ตกรอบรองฯ แต่กีฬามีแพ้มีชนะ เมื่อพิจารณาสถิติการแข่งขันของทั้งคู่ในปีนี้ เห็นว่าทำผลงานรวมทุกรายการได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถเอาชนะได้ถึง 27 นัดจากการลงเล่น 34 นัด ซึ่งถือว่าทั้งคู่พัฒนาฝีมือได้ดีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ผลงานของนักกีฬาแบดมินตันไทยในปีนี้ ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่สมาคมฯ ตั้งไว้ และหวังว่ารายการต่อไป นักกีฬาแบดมินตันไทยจะทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง จึงขอชาวไทยร่วมส่งกำลังใจให้นักกีฬาแบดมินตันไทยทุกคนต่อไปด้วย

ขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่านที่ทำให้การจัดการแข่งขันผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และเป็นที่ประทับใจสหพันธ์แบดมินตันโลก (บีดับเบิลยูเอฟ) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประกาศให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการระดับซูเปอร์ซีรี่ส์ รวมถึงแฟนกีฬาแบดมินตันชาวไทยทุกคนที่เข้าไปชมในสนามแข่งขัน ร่วมเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬา และมีส่วนร่วมกับความสำเร็จของประเทศไทยในครั้งนี้ โดยในปีหน้า รับรองว่ารายการที่จะจัดในระดับซูปอร์ซีรี่ส์ จะยิ่งใหญ่กว่ารายการระดับกรังด์ปรีซ์ โกลด์อย่างแน่นอน”

tagged in :

•