ขนไก่ไทยแร็กร้อนเข้าลุ้น 3 แชมป์ศึกโตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น

ขนไก่ไทยแร็กร้อนเข้าลุ้น 3 แชมป์ศึกโตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น

การแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ในเมืองไทยในศึก  "โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024"  รายการระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเงินรางวัลรวม 420,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 14,700,000 บาท ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ เมื่อวันเสาร์ที่ 18 พ.ค.67 เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ
    
ประเภทหญิงเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ "เม" ศุภนิดา เกตุทอง มือวางอันดับ 6 ของรายการ มืออันดับ 16 ของโลก พบกับ หวัง ซี่ยี่  มือวางอันดับ 2 ของรายการ มืออันดับ 8 ของโลกจากจีน และเจ้าของแชมป์เอเชียปีล่าสุด 

เกมนี้ "เม" ศุภนิดา เล่นด้วยความอดทนและได้นิ่งกว่าในช่วงท้ายเกม  ก่อนเอาชนะไปอย่างหวุดหวิด 2-1 เกม 21-17,12-21 และ  22-20 "เม" ศุภนิดา ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศไปพบกับ หาน เยี่ย มือวางอันดับ 1 ของรายการ มืออันดับ 7 ของโลกจากจีน ที่เอาชนะ หมิว" พรป"วีณ์ ช่อชูวงศ์ มือวางอันดับ 8 ของรายการ มืออันดับ 19 ของโลก มาได้ 2-0 เกม 21-13,21-18 

เม ศุภนิดา กล่าวหลังจากจบการแข่งขันว่า "เกมในวันนี้วัดกันด้วยความอดทนอย่างแท้จริง ซึ่งเราลไปเล่นในช่วงแรกดูจะเหมือนง่าย แต่มันไม่ง่ายเลยโดยเฉพาะในเกมตัดสิน เราตีหลุดไปพอสมควรช่วงนั้นเราก็พยายามกลับมาโฟกัสให้อยู่ในเกมให้ได้มากที่สุด ควบคุมสถานการณ์จนคว้าชัยชนะได้ รู้สึกดีใจมากที่เราสามารถปลดล้อกคว้าชัยกับเขาเป็นครั้งแรกได้ มันดีใจมากจริงๆ ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น ประกอบกับเสียงเชียร์จากแฟนๆในสนามมีส่วนสำคัญกับเรามากทำให้เรามีกำลังใจที่กลับมาฮึดสู้จนแฟนแบดมินตันในสนามมีความสุข สำหรับในรอบชิงชนะเลิศเราจะกลับไปวางแผนและศึกษาเกมอย่างละเอียดที่สุด"

ศุภนิดา กล่าวต่ออีกว่า "การมาของโค้ช คิม จีฮุน ชาวเกาหลีใต้ ทำให้เราได้เสริมเติมแต่งในส่วนที่ขาดหายไปโดยเฉพาะในเกมรับ ซึ่งเรามีปัญหามาโดยตลอด ซึ่งเราสามารถนำมาใช้กับการแข่งขันได้จริง จนผลงานมีการพัฒนาขึ้นในช่วงที่ผ่านมาๆ" 

ประเภทคู่ผสม รอบรองชนะเลิศ "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 6 ของโลก ไล่ตบทำคะแนนเอาชนะคู่รุ่นน้อง  "ไตเติ้ล" รุษฐนภัค อูปทอง กับ "เจน" เฌอย์นิชา สุดใจประภารัตน์ คู่มืออันดับ 35 ของโลก ไปได้ 2-0 เกม 21-15,21-14 

"บาส" เดชาพล  กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ เกา ซินวา กับ เฉิน ฟางฮุ้ย คู่มือวางอันดับ 5 ของรายการจากจีน ที่เอาชนะ รินอฟ ริวัลดี้ กับ ปีตา ฮานิงตียัซ เมนตารี คู่มืออันดับ 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 15 ของโลกจากอินโดนีเซีย มาได้ 2-0 เกม 21-15, 21-14  

บาส กับ ปอป้อ กล่าวหลังจบการแข่งขันว่า "วันนี้ได้เล่นกับน้องไตเติ้ล กับ เจน ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเราต้องเล่นยังไงให้ได้อย่างที่ซ้อมกันมา ลงไปเล่นให้สนุก แต่วันนี้น้องก็เล่นกับเราได้ดีมากๆ เกือบจะสร้างปัญหาให้เราแต่สามารถแก้เกมจนได้ชัยชนะไปในที่สุด ส่วนคู่แข่งจากจีนในรอบชิงชนะเลิศ คู่จีนมีการสลับคู่ด้วย ซึ่งเราวางแผนเกมการเล่นให้รอบคอบที่สุด ส่วนตัวยังไม่มองไปถึงการคว้าแชมป์เพราะมันจะให้เรากดดันตัวเอง ในวันพรุ่งนี้ส่งใจเชียร์บาส กับ ปอป้อ และนักแบดมินตันไทยคนอื่นๆในรอบชิงชนะเลิศด้วย"

ด้าน ไตเติ้ล กับ เจน ได้กล่าวหลังจากจบเกมนี้ว่า "เราพยายามเล่นอย่างเต็มที่แล้ว เกมในวันนี้เราพยายามเปิดเกมบุกแลกกันเลย แต่จะมีเรื่องเสียเองบ้างเป็นบางจังหวะ กับความแน่นอนที่เรายังเป็นของอยู่  จากเกมในวันนี้เป็นอะไรที่ดีมากๆสำหรับทั้งไตเติ้ล กับ เจน ที่เราได้เล่นกับคู่พี่บาส กับ พี่ปอป้อ ซึ่งเขาเปฺ็นระดับถึงแชมป์โลกด้วย เราก็พยายามเล่นให้อยู่ในเกมที่วางไว้กันให้ได้มากที่สุด ส่วนการแข่งขันในรายการนี้เรามาไกลเกินเป้าหมายแล้วเป็นการเข้ามาถึงรอบนี้ เป็นอะไรที่ดีมากๆ หลังจากนี้เราจะต้องเล่นให้ละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อพัฒนาในการไต่อันดับไปอยู่ในท็อป 20 ของโลกให้ได้เป็นอันดับแรก"

ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ เจ้าของแชมป์เก่า มือวางอันดับ 4 ของรายการ มืออันดับ 8 ของโลก พ่ายให้กับ อึ้ง กาลอง อังกุส มืออันดับ 27 ของโลกจากฮ่องกง ไปอย่างน่าเสียดาย 1-2 เกม 14-21,21-18,19-21

วิว กุลวุฒิ ได้สัมภาษณ์หลังจบเกมนี้ว่า "เสียดายมากที่ไม่สามารถผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์ได้ ยอมรับว่าเราก็ผิดพลาดในช่วงท้ายแล้วเราไม่สามารถควบคุมเกมและยังไม่นิ่งพอ ส่วนตัวก็ไม่ได้กังวลในเรื่องของอันดับโลกของตัวเองที่จะตกลงไปจากท็อป 8 เพราะว่าเราจะทอดสอบตัวเองด้วยว่า ศักยภาพเรามีมากน้อยแค่ไหนที่จะไปเล่นโอลิมปิกเกมส์ที่ปารีส แต่ละรายการเราไม่รู้หรอกว่าผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร แต่สิ่งสำคัญคือ เราโฟกัสเกมในสนามนั้นมากน้อยแค่ไหน หลังจากจบรายการนี้ก็คุยกับทีมงานแล้วก้โค้ชเป้ว่า เราจะเตรียมตัวยังไงบ้าง เพราะยังมีอีก 3 รายการสำคัญที่รอเราอยู่ก่อนไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 สุดท้ายขอบคุณแฟนๆแบดมินตันไทยที่ส่งใจเชียร์ผมตลอดการแข่งขัน เป็นอะไรที่สนุกมาก ทำให้ผมมีกำลังใจในการเล่นมากถึงแม้จะไม่สามารถผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้ในวันนี้"


 
ประเภทหญิงคู่ รอบรองชนะเลิศ "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ "วิว" รวินดา ประจงใจ คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 10 ของโลก ไล่ตบเอาชนะ ทานีช่า คาสโตร กับ อาชวีนี่ พอนนัพพา คู่มือวางอันดับ 4 ของรายการ คู่มืออันดับ 21 ของโลกจากอินเดีย ไปได้ 2-0 เกม 21-12 และ 22-20

"กิ๊ฟ" จงกลพรรณ  กับ "วิว" รวินดา ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ เฟเบรียนา ดวีปูจิ กูซูมา กับ อเมเลีย คาฮายา ปราติวี คู่มือวางอันดับ 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 18 ของโลกจากอินโดนีเซีย  ชนะ ริน อิวานากะ กับ เคอิ นากานิชิ คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 12 ของโลกจากญี่ปุ่น  2-0 เกม 21-12,21-10  

สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆในรอบรองชนะเลิศมีดังนี้ ประเภทชายเดี่ยว ลี ซีเจี๋ย  มือวางอันดับ 6 ของรายการ มืออันดับ 10 ของโลกจากมาเลเซีย ชนะ โจว เทียนเฉิน มือวางอันดับ 8 ของรายการ มืออันดับ 14 ของโลกจากไต้หวัน 18-21,21-12,21-13

ประเภทชายคู่ ซาวิตไซราท แรงกี้ เรดดี้ กับ ชีราท เชตตี้ คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 3 ของโลกจากอินเดีย ชนะ หมิง ฉีลู่ กับ ถัง ไคเหว่ย คู่มืออันดับ 80 ของโลกจากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11,21-12  ,  เฉิง โบหยาน กับ หลิว ยี่ คู่มืออันดับ 29 ของโลกจากจีน ชนะ คิม กีจุง กับ คิม ซารัง คู่มืออันดับ 106 ของโลกจากเกาหลีใต้ 2-0 เกม 21-19,21-18 

สำหรับการแข่งขันแบดมินตันรายการ "โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024" ในวันเสาร์ที่ 18 พ.ค.67 นี้ จะเป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ แฟนๆแบดมินตันสามารถซื้อบัตรได้ที่ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา รวมไปถึงบริเวณหน้าสนามแข่งชขัน และติดตามชมการถ่ายทอดสดได้ที่ช่อง SPOTV (689) , True Sport 7 (686) และช่อง True4U  เริ่มแข่งขันตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป

พิเศษสำหรับในรอบชิงชนะเลิศ ทางสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้มีรางวัลพิเศษ โดยมอบรถยนต์โตโยต้า ยาริส เอทีฟ 1.2 รุ่น Sport (Toyota Yaris ATIV) จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 556,000 บาท สำหรับแฟนๆ แบดมินตันที่ซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ในวันอาทิตย์ที่ 19 พ.ค.67 เท่านั้น  โดยซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน 1 ใบ ต่อ 1 สิทธิ์ จะทำการจับรางวัล ณ อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติเท่านั้น  กรณีจับรางวัลไปแล้ว ผู้ได้รับรางวัลไม่อยู่ที่ในงาน ผู้จัดงานอนุญาตจับรางวัลใหม่"