21 มกราคม 2564 – การแข่งขันแบดมินตัน รายการแรกในศึก "โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น " ทัวร์นาเมนต์เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 30,100,000 บาท ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ภายใต้มาตรการในรูปแบบ New Normal โดยไม่อนุญาตให้แฟนแบดมินตัน และผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในสนามโดยเด็ดขาด เมื่อวันพฤหัสฯที่ 21 ม.ค.64 เป็นการลงสนามแข่งขันวันที่สามในรอบเมนดรอว์รอบสอง

ประเภทหญิงเดี่ยวรอบเมนดรอว์รอบสอง (16 คน) ปรากฎว่า "เมย์" รัชนก อินทนนท์ มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 5 ของโลก ต้องออกแรงอย่างหนักก่อนที่จะมาพลิกสถานการณ์หลังจากที่พลาดท่าพ่ายไปก่อนในเกมแรกมาเร่งเครื่องทำคะแนนแซงชนะ ซัง จีฮุน มืออันดับ 14 ของโลกจากเกาหลีใต้ ไปได้แบบหวุดหวิด 2-1 เกม 19-21, 24-22, 21-17 ใช้เวลาแข่งขันนานถึง 76 นาที รัชนก ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศไปรอพบกับผู้ชนะระหว่าง พูสซาลา วี สินธุ มือวางอันดับ 6 ของรายการ มืออันดับ 7 ของโลกจากอินเดีย ที่จะพบกับ คีโซน่า เซลวาดูเร มืออันดับ 92 ของโลกจากมาเลเซีย

              "เมย์" รัชนก เผยหลังเกมว่า “ต้องยอมรับว่าวันนี้คู่แข่งเตรียมตัวมาดี แผนการเล่นของเขาจะคล้ายกับตอนที่เมย์แพ้ อัน เซยอง  จากเกาหลีใต้เหมือนกัน คือเขาพยายามคุมเรา เมย์ก็พยายามเรียนรู้และปรับให้ได้เร็วที่สุด อาจไม่ใช่ธรรมชาติของเมย์ที่ต้องเล่นสไตล์แบบนี้คือป้องก่อน จึงค่อนข้างผิดธรรมชาติในความคุ้นเคยของเมย์ในการออกลูกไป แต่พยายามคุมตัวเองให้ดีที่สุด ในวันนี้ในภาพรวมมีทั้งจังหวะที่ได้แต้มเป็นชุด เสียก็เสียเป็นชุดเช่นกัน ต้องพยายามคุมตัวเองให้อยู่ เขาเป็นนักแบดมินตันที่มีประสบการณ์สูง เคยเจอกันมากว่า 20 ครั้ง ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ โดยเมย์เป็นฝ่ายชนะ 12 ครั้ง แพ้ 10 ครั้ง ซัง จีฮุนเป็นผู้เล่นที่มีจังหวะการตีที่ดี เป็นคนสูง จังหวะตีลูกที่ออกมาจะสั้น”

“เมย์มองว่าทุกคนมีประสบการณ์ ยิ่งเข้ารอบลึกยิ่งเคี่ยว วัดกันที่จิตใจและรูปแบบความคิดในสนาม ใครกล้าได้กล้าเสียมากกว่ากัน รอบต่อไปจะเจอกับสินธุ จากอินเดีย ซึ่งในสามครั้งหลังเมย์เป็นฝ่ายแพ้มา จะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศให้ได้ คืนนี้ต้องกลับไปศึกษาเทปการเล่นของคู่แข่ง ดูว่าจุดไหนที่เขาพัฒนาขึ้น จุดไหนที่เป็นจุดอ่อน ฝากถึงแฟนๆกีฬาที่ชมการแข่งขันทางทรูวิชั่นส่งกำลังใจให้นักกีฬาไทย จะพยยามทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อคว้าแชมป์มาครอง” รัชนก กล่าว

              ทางด้าน "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 13 ของโลก ทำคะแนนเอาชนะรุ่นน้อง "มูนา" เบญญาภา เอี่ยมสอาด มืออันดับ 129 ของโลก ไปได้สำเร็จ 2-0 เกม 21-18, 21-14 ใช้เวลาแข่งขัน 43 นาที พรปวีณ์ ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศไปพบกับ อัน เซยอง มือวางอันดับ 7 ของรายการ มืออันดับ 9 ของโลกจากเกาหลีใต้ ที่เอาชนะ เหยา เจียหมิน มืออันดับ 26 ของโลกจากสิงค์โปร์ มาได้ 2-0 เกม 21-15, 21-7

ประเภทคู่ผสมรอบเมนดรอว์รอบสอง (16 คู่) "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวาง 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 3 ของโลก โชว์ฟอร์มแกร่งไล่ตบยํ้าแค้นเอาชนะ เกา ซุนฮวด กับ เชวอน เจมี่ไล คู่มืออันดับ 12 ของโลกจากมาเลเซีย ไปได้สำเร็จ 2-0 เกม 21-12, 21-19 ใช้เวลาแข่งขัน 36 นาที เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศไปพบกับจอมเก๋า โค ซังฮุน กับ อึม แฮวอน คู่มืออันดับ 26 ของโลกจากเกาหลีใต้ ที่เอาชนะ ถัง ชุนมาน กับ ซื่อ หยิงซวด คู่มือวางอันดับ 8 ของรายการ คู่มืออันดับ 10 ของโลกจากฮ่องกง มาได้ 2-0 เกม 22-20, 21-17 ส่วน "เอ็ม" สุภัค จอมเกาะ กับ "เฟม" ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่มืออันดับ 44 ของโลก โชว์ฟอร์มเก่งไล่ตบทำคะแนนเฉือนชนะ มาร์คัส เอลลิส กับ รอว์เรน สมิธ คู่มือวางอันดับ 7 ของรายการ คู่มืออันดับ 9 โลกจากอังกฤษ ไปได้แบบหวุดหวิด 2-1 เกม 21-18, 11-21, 23-21 ใช้เวลาแข่งขัน 67 นาที สุภัค กับ ศุภิสรา ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศไปพบกับ แช ยูจุง กับ โซว ซองแจ คู่มือวางอันดับ 4 ของรายการ คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้ ที่เอาชนะ โรเดียน อลิมอฟ กับ เอลิน่า ดาเวลโตว่า คู่มืออันดับ 23 ของโลกจากรัสเซีย มาได้ 2-0 เกม 21-11,21-17

              บาส-เดชาพล และ ปอป้อ-ทรัพย์สิรี เผยวา “เกมโดยรวมวันนี้เราตีตามแผนที่วางไว้ และทำให้คู่แข่งตีพลาดเอง โดยเราวางแผนเป็นฝ่ายบุกให้ได้มากที่สุดเพื่อทำแต้มและปิดเกม หากเป็นฝ่ายรับโอกาสเสียแต้มมีเยอะมาก ผ่านรอบนี้ก็ยังไม่เบาใจ ต้องพยายามทำเต็มที่ต่อไป เพราะเป้าหมายของเราคือการคว้าแชมป์ อยากโฟกัสกับแผนการเล่นมากกว่า ว่าทำอย่างไรให้เล่นได้ตามแผน เรื่องความกังวลความกดดันควรมีให้น้อยที่สุด รอบต่อไปจะพบกับคู่เกาหลีใต้ ตอนนี้ยังไม่ได้วางแผน ต้องไปคุยกันอีกทีว่าจะเล่นอย่างไร”

ประเภทหญิงคู่รอบเมนดรอว์รอบสอง (16 คู่) "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ "วิว" รวินดา ประจงใจ คู่มือวาง 7 ของรายการ คู่มืออันดับ 11 ของโลก ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเปิดเกมบุกทำคะแนนเอาชนะ อมาลี่ โมเกลุนซ์ กับ ฟรีก้า ราเวน คู่มืออันดับ 41 ของโลกจากเดนมาร์ก ไปได้ชาดลอย 2-0 เกม 21-17, 21-15 ใช้เวลาแข่งขัน 46นาที จงกลพรรณ กับ รวินดา ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศไปพบกับ คิม โซยอง กับ กอง ฮียอง คู่มือวาง 4 ของรายการ คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้ ที่เอาชนะ อิซเบล เฮอร์ทริกซ์ กับ ลินดา อีเฟียร์ คู่มืออันดับ 31 ของโลกจากเยอรมัน มาได้ 2-0 เกม 21-14, 21-15

              ประเภทชายเดี่ยวรอบเมนดรอว์รอบสอง (16 คน) "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 29 ของโลก พ่ายให้กับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 4 ของโลกจากเดนมาร์ก ไป 0-2 เกม 11-21,13-21 ใช้เวลาแข่งขัน 38 นาที

              ประเภทชายคู่รอบเมนดรอว์รอบสอง(16 คู่) "เอ็ม"สุภัค จอมเกาะ กับ "สกาย" กิตตินุพงษ์ เกตุเรน พลาดท่าแผ่สปลายพ่ายให้กับ โก๊ะ วีแชม กับ ตัน วีเคียง คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากมาเลเซีย ไปอย่างน่าเสียดาย 1-2 เกม 15-21,21-16,15-21 ใช้เวลาแข่งขัน 51 นาที

              สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆที่น่าสนใจมีดังนี้

              ประเภทชายเดี่ยว อันเดรส แอนทอนเซ่น มือวาง 3 ของรายการ มืออันดับ 3 ของโลกจากเดนมาร์ก ชนะผ่าน คีดัมบี้ สีกาน มืออันดับ 14 ของโลกจากอินเดีย, หวัง ซื่อเว่ย มืออันดับ 12 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ อึ้ง กาลอง อังกุส มือวางอันดับ 7 ของรายการ มืออันดับ 8 ของโลกจากฮ่องกง 21-13, 21-11,ลี ชุ๊คยิว มืออันดับ 20 ของโลกจากฮ่องกง ชนะ แอนโทนี่ ซินนิซุกะ กินติ้ง มือวางอันดับ 5 ของรายการ มืออันดับ 6 ของโลกจากอินโดนีเซีย 21-19,13-21,21-12, ซาเมียร์ เวอร์ม่า มืออันดับ 31 ของโลกจากอินเดีย ชนะ ราสมุส เกมเก้ มืออันดับ 17 ของโลกจากเดนมาร์ก 21-12 ,21-9,โจว เทียนเฉิน มือวาง 2 ของรายการ มืออันดับ 2 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ บรีซ เลเวอร์เดนซ์ มืออันดับ 37 ของโลกจากฝรั่งเศส21-19, 21-16, โจว เทียนเฉิน มือวาง 2 ของรายการ มืออันดับ 2 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ บรีซ เลเวอร์เดนซ์ มืออันดับ 37 ของโลกจกาฝรั่งเศส21-19, 21-16, ฮาน คริสเตียน วิตติ้งฮุส มืออันดับ 42 ของโลกจากเดนมาร์ก ชนะ ชีซาร์ ไฮเรน ฮูสตารวีโต้ มืออันดับ 18 ของโลกจากอินโดนีเซีย11-21, 21-15, 21-17, ดาเรน หลิว มืออันดับ 41 ของโลกจากมาเลเซีย ชนะ เอช.เอส ปรานอย มืออันดับ 28 ของโลกจากอินเดีย21-17, 21-18

              ประเภทหญิงเดี่ยว ไถ้ ซื่อหยิง มือวาง 1 ของรายการ มืออันดับ 1 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ เกรกลอเลีย มาริสก้า ทุนจุง มืออันดับ 21 ของโลกจากอินโดนีเซีย22-20, 21-16, มิเชล ลี มือวางอันดับ 8 ของรายการ มืออันดับ 10 ของโลกจากแคนาดา ชนะ ไอริส หวัง มืออันดับ 50 ของโลกจากอเมริกา21-17, 21-18,คาโรลิน่า มาริน มือวางอันดับ 5 ของรายการ มืออันดับ 6 ของโลกจากสเปน ชนะ ลีเน่ย์ คเจอร์เฟลท์ มืออันดับ 34 ของโลกจากเดนมาร์ก 21-19, 21-16

              ประเภทคู่ผสม ซาวีไซราท รานกิเรดดี้ กับ อาชวีนี่ พอนนัพพา คู่มืออันดับ 36 ของโลกจากอินเดีย ชนะ มาร์ค แลมฟุ๊ท กับ อิซเบล เฮอร์ทริก คู่มืออันดับ 17 ของโลกจากเยอรมัน 22-20, 14-21, 21-16, ชาง เป็งสุน กับ โก๊ะ หลิวยิง คู่มือวางอันดับ 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 7 ของโลกจากมาเลเซีย ชนะ อัตนัน มัวลาน่า กับ ไมเชลลี่ คริสเตียน บันโดโซ่ คู่มืออันดับ 33 ของโลกจากอินโดนีเซีย21-18 ,21-15,ฮาฟิต ไฟซาล กับ กลอเลีย วิจาจ้า คู่มือวางอันดับ 6 ของรายการ คู่มืออันดับ 8 ของโลกจกาอินโดนีเซีย ชนะ โจชัว ฮาเบิร์ท ยู กับ โจเซฟีน วู คู่มืออันดับ 30 ของโลกจากแคนาดา21-17, 21-8 ,ฮาฟิต ไฟซาล กับ กลอเลีย วิจาจ้า คู่มือวางอันดับ 6 ของรายการ คู่มืออันดับ 8 ของโลกจกาอินโดนีเซีย ชนะ โจชัว ฮาเบิร์ท ยู กับ โจเซฟีน วู คู่มืออันดับ 30 ของโลกจากแคนาดา21-17, 21-8, หู ปังรอง กับ เซี๊ยะ ยี่ซี คู่มืออันดับ 35 ของโลกจากมาเลเซีย ชนะ ทอม กีร์เกล กับ เดลฟีน เดอรูร์ คู่มืออันดับ 15 ของโลกจากฝรั่งเศส 21-14 ,21-16

              ประเภทหญิงคู่ อเล็กซานเดอร์ โบร์เจ้ กับ เม็ตเต้ โพลเซน คู่มืออันดับ 36 ของโลกจากเดนมาร์ก ชนะผ่าน ยูกิ ฟูกูชิมะ กับ ซายากะ ฮิโรตะ คู่มือวาง ๅ ของรายการ คู่มืออันดับ 1 ของโลกจากญี่ปุ่น, ลี โซฮี กับ ชิน ซองชาน คู่มือวางอันดับ 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 4 ของโลกจากเกาหลีใต้ ชนะ อนาสตาเซีย อาคูรีน่า กับ โอลก้า โมโรโซว่า คู่มืออันดับ 42 ของโลกจากรัสเซีย21-13, 21-11,วิเวียน โฮ กับ ยัป เฉินเหวิน คู่มืออันดับ 25 ของโลกจากมาเลเซีย ชนะ อีมีลี่ ลาเฟล กับ แอนเน่ ทรานส์ คู่มืออันดับ 30 ของโลกจากฝรั่งเศส 19-21, 21-17, 21-12

              ประเภทชายคู่ อารอน เชี๊ยะ กับ โซ วูยิค คู่มือวาง 8 ของรายการ คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากมาเลเซีย ชนะ ลีโอ โรลลี่ คานานโด กับ ดาเนียล มาร์ติน คู่มืออันดับ 70 ของโลกจากอินโดนีเซีย21-12,6-21,21-12, ออง ยิวซิน กับ เต้า อี่ยี่ คู่มืออันดับ 15 ของโลกจากมาเลเซีย ชนะ แมททีอัส คริสเตียนเซน กับ นิคลาส นอร์ จากเดนมาร์ก 8-21, 21-7, 21-17,ซาวีไซราท รานกิเร็ดดี้ กับ ชีราท เช็ตตี้ คู่มืออันดับ 10 ของโลกจากอินเดีย ชนะ ชอย โซคู กับ ซอง แซโจว คู่มือวาง 7 ของรายการ คู่มืออันดับ 8 ของโลกจากเกาหลีใต้21-18, 23-21, เบน เลนจ์ กับ แซน วินดี้ คู่มืออันดับ 32 ของโลกจากอังกฤษ ชนะ เอ็ม อาร์. อาจูน กับ ดูรูฟ คาปีลา คู่มืออันดับ 95 ของโลกจากอินเดีย21-9, 21-11

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “วันนี้เป็นอีกวันที่นักแบดมินตันไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยรวมต้องบอกว่าเราได้คู่ผสมคู่ใหม่เป็นขวัญใจอีกคู่หนึ่งของไทย คือ เอ็ม-สุภัค จอมเกาะ กับ เฟม-ศุภิสรา เพียวสามพราน ที่พลิกล็อคเฉือนเอาชนะ มาร์คัส เอลลิส กับ รอว์เรน สมิธ คู่มืออันดับ 9 โลกจากอังกฤษ ไปได้แบบหวุดหวิด 2-1 เกม เกม 3 เรามีโอกาสถึง 5 แมทชพอยต์แต่เราปิดไม่ได้ แต่เราก็เฉือนกลับมาเอาชนะไปได้ ขณะที่คู่อื่นก็ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม บาส-เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ปราบ เกา ซุนฮวด กับ เชวอน เจมี่ไล คู่มืออันดับ 12 ของโลกจากมาเลเซียไปได้ 2-0 เกม”

“ส่วน เมย์-รัชนก อินทนนท์ เล่นเอาแฟน ๆ หายใจไม่ทั่วท้อง แต่สุดท้ายก็เฉือนเอาชนะ ซัง จีฮุน มืออันดับ 14 ของโลกจากเกาหลีใต้ไปแบบหวุดหวิด 2-1 เกม หมิว-พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ยังทำผลงานได้ดีเช่นกัน เอาชนะรุ่นน้อง "มูนา" เบญญาภา เอี่ยมสอาด ขณะที่ ชายเดี่ยว วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ พ่ายให้กับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น คู่นี้ต้องยอมรับว่าคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งกว่าจะขึ้นมาทาบชั้นนักแบดมินตันระดับท็อปเทนของโลก จังหวะที่จะเป็นแต้มเราทำไม่ได้ ด้าน หญิงคู่ "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ วิว-รวินดา ประจงใจ ยังรักษามาตราฐานฟอร์มการเล่นไว้ สามารถเอาชนะ อเมลี่ แม็กลุนด์ กับ ฟรีก้า ราเวน จากเดนมาร์กไปแบบไม่ยากเย็น ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปพบกับ คิม โซยอง กับ กอง ฮียอง คู่จากเกาหลีใต้ที่รายการที่แล้วเราเฉือนชนะมารอบก่อนรองชนะเลิศ และ ชายคู่ เอ็ม-สุภัค จอมเกาะ กับ สกาย-กิตตินุพงษ์ เกตุเรน ถึงแม้จะพ่าย โก๊ะ วีแชม กับ ตัน วีเคียง จากมาเลเซีย ดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิก แต่ชายคู่ไทย ก็เล่นได้ยอดเยี่ยม”

คุณหญิงปัทมา กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน โธมัส บาค ประธานไอโอซี ได้ส่งสาร มาถึงตน โดยแสดงความชื่นชมในการดำเนินการจัดการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ ในเดือนมกราคมนี้ ของไทย ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ที่ผ่านมาครึ่งทางแล้ว โดยสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ รัฐบาลไทย ในการวางมาตรการป้องกันไวรัสอันตรายไว้อย่างเข้มงวด ในรูปแบบ บับเบิ้ล นักกีฬา เจ้าหน้าที่จาก 22 ชาติ กว่า 800 คน จะถูกตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ก่อนเดินทางมาไทย และมีการตรวจอย่างต่อเนื่อง จนจบการแข่งขัน และระหว่างที่พักอยู่ในโรงแรม จะเดินทางไปได้แค่สนามฝึกซ้อม สนามแข่งขัน ไม่สามารถออกนอกเส้นทางได้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของทุกคน”

              ทั้งนี้ใจความสาร โธมัส บาค ได้ระบุว่า ตนเองรู้สึกประทับใจอย่างยิ่งที่ คุณหญิงปัทมา ให้การสนับสนุนกีฬาแบดมินตัน และกระบวนการโอลิมปิก ส่งเสริมกีฬาอยู่อย่างต่อเนื่อง ขอแสดงความยินดีกับมาตรการที่ไทยดำเนินการ โดยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดจากรัฐบาลไทย ซึ่งถือว่าเป็นแบบอย่างที่สำคัญ ด้วยเหตุนี้ ตนจึงส่งต่อข้อความนี้ ไปยัง คริสโตเฟอร์ ดูบี ผู้อำนวยการบริหารระดับสูง และผู้อำนวยการกีฬาโอลิมปิก และ คิท แม็คคอนเนลล์ ผู้อำนวยการด้านกีฬา พร้อมด้วยทีมงานของพวกเขา ให้ดูเป็นตัวอย่าง ที่พวกเขากำลังทำงานอย่างหนักสำหรับมาตรการรับมือโควิด-19 ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 ที่จะมีขึ้นกลางปีนี้ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น”

              การดำเนินการดังกล่าว คุณหญิงปัทมา ได้สร้าง และมีส่วนช่วยอย่างมาก ในการส่งมอบการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่ปลอดภัยสำหรับผู้เข้าร่วมทุกคน ในเรื่องนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณอันทรงพลัง เป็นความหวัง ให้กับโลกของเราในการเอาชนะวิกฤติโคโรนาไวรัส และทำให้เปลวไฟโอลิมปิก สามารถเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ที่มนุษย์จะได้พบเจอ

“ก่อนหน้านี้ ประธานไอโอซี ได้กล่าวต่อที่ประชุมสุดยอดของผู้นำ G20 ไว้ว่า กีฬาสามารถช่วยชีวิตได้ ในช่วงเวลาวิกฤติอันเกิดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ พวกเราประจักษ์ถึงความสำคัญของกีฬาต่อสุขภาพทั้งทางกายและจิตใจ และนอกจากประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว กีฬายังช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมอีกด้วย ที่สำคัญคือ ท่านย้ำว่า ให้วิกฤตการณ์ครั้งนี้ เป็นบทเรียนที่สำคัญยิ่ง คือ เราจะต้องยิ่งร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันให้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้กีฬาสำคัญต่อการฟื้นฟูสังคมไทยและสังคมโลก”​ คุณหญิงปัทมา กล่าว

              นอกจากนี้ พอล อีริค โฮเยอร์ ประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก ยังได้ส่งข้อความ ชื่นชมการทำงานของคุณหญิงปัทมา ด้วยว่า ทุกคนทราบว่าคุณหญิงปัทมา ทำงานหนักมาก ๆ และเธอทำงานด้วย ความรัก ใส่ใจ จริงใจ และเคารพอ่อนน้อมทุกคน ในการขอความร่วมมือ ก่อนหน้านี้มีความเห็นหลากหลาย ในกลุ่มผู้บริหารสหพันธ์แบดมินตันโลก เกี่ยวกับการแข่งขันครั้งนี้ว่าจะทำได้หรือไม่ได้ แต่ด้วยความพยายามอย่างมากของคุณหญิงปัทมา และมีความเป็นมืออาชีพ ทุกอย่างออกมาดีเยี่ยม อย่างน่าชื่นชม

ทั้งนี้ ถ้าเปรียบเทียบกับการแข่งขันแฮนด์บอลชิงแชมป์โลก ที่ประเทศอียิปต์ ผู้สื่อข่าวของเดนมาร์ก ได้รายงานว่า เจ้าภาพประเทศไทยทำได้ดีกว่ามาก และไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ส่งให้ กีฬาแบดมินตัน สามารถทำให้ทั่วทั้งโลกได้เชื่อมั่นว่า ประเทศไทย มีประสิทธภาพ ประสบความสำเร็จในการจัดการแข่งขัน ในช่วงสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากเช่นนี้

              สำหรับศึก "โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น" เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างวันที่ 19 - 24 มกราคมนี้  จะมีการถ่ายทอดสดผ่าน 3,000 ล้านครัวเรือนทั่วโลก ส่วนในประเทศไทยสามารถชมการถ่ายทอดสดได้หลากหลายช่องทางทั้ง ทรูวิชั่นส์, ทรูโฟร์ยู, ทรู ยูทูป, ทรู เฟซบุ๊ก และทรูไอดี โดยทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดสดทุกคู่การแข่งขัน ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ผ่านทาง Truesports HD3 ช่อง 668, Truesports 7 ช่อง 686 และ Truesports HD2 ช่อง 667 และรับชมผ่านทางทรูโฟร์ยู เฉพาะคู่ที่นักกีฬาไทยลงทำการแข่งขันทุกวัน วันศุกร์ที่ 22 ม.ค. ระหว่างเวลา 14:30 - 20:00 น. วันเสาร์ (23 ม.ค.) ระหว่างเวลา 16.30 - 20.00 น. และวันอาทิตย์ (24 ม.ค.) ระหว่างเวลา 14:30-17:00 น.