15 มกราคม 2564 – การแข่งขันแบดมินตัน เอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ เอเชียน เลก เปิดฉากรายการแรกในศึก "โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น" ทัวร์นาเมนต์เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 30,100,000 บาท ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ในรูปแบบนิวอร์มอลภายใต้มาตรการคุ้มเข้มเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยไม่อนุญาตให้แฟนแบดมินตัน และผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในสนามโดยเด็ดขาด โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 15 ม.ค. เป็นการลงสนามแข่งขันวันที่สี่ในรอบก่อนรองชนะเลิศ

              ไฮไลท์อยู่ที่ ประเภทหญิงเดี่ยว รอบก่อนรองชนะเลิศ  "เมย์" รัชนก อินทนนท์ มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 5 ของโลก พ่ายให้กับ อัน เซยอง มือวางอันดับ 7 ของรายการ มืออันดับ 9 ของโลกจากเกาหลีใต้ , "เมย์" ศุภนิดา เกตุทอง มืออันดับ 46 ของโลก พ่ายให้กับ แชมป์โลกสามสมัย คาโรลิน่า มาริน มือวางอันดับ 5 ของรายการ มืออันดับ 6 ของโลกจากสเปน ไป0-2 เกม 16-21,16-21 ใช้เวลาแข่งขัน 44 นาที,  "ครีม" บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ มืออันดับ 12 ของโลก พลาดท่าพ่ายให้กับ เมียร์ บลิทเฟลท์ มืออันดับ 18 ของโลกจากเดนมาร์กไปอย่างน่าเสียดาย 0-2 เกม 13-21,18-21 ใช้เวลาแข่งขัน 45 นาที ทำให้หญิงเดี่ยวไทยนั้นตกรอบหมดเป็นที่เรียบร้อย

              ประเภทคู่ผสมรอบก่อนรองชนะเลิศ "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวาง 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 3 ของโลก พบกับ ชาง เป็งสุน กับ โก๊ะ หลิวยิง คู่มือวางอันดับ 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 7 ของโลกจากมาเลเซีย เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก 2016 เกมการแข่งขันเป็นทาง บาส เดชาพล กับ ปอป้อ ทรัพย์สิรี เป็นฝ่ายที่ฉกฉวยโอกาสในจังหวะสำคัญๆได้ดีกว่า เอาชนะไปได้อย่างสนุก 2-0 เกม 21-18 และ 21-17 ใช้เวลาแข่งขัน 44  นาที "บาส" เดชาพลกับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปพบกับ แช ยูจุง กับ โซว ซองแจ คู่มือวางอันดับ 4 ของรายการ คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้ ที่เอาชนะ ชาง ตั๊กชิง กับ อึ้ง วิงหยุง คู่มืออันดับ 37ของโลกจากฮ่องกง มาได้ 2-1 เกม   21-16, 15-21, 21-4

              ประเภทหญิงคู่ รอบก่อนรองชนะเลิศ  "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ "วิว" รวินดา ประจงใจ คู่มืออันดับ 11 ของโลก เอาชนะ "เกน"ลักษิกา กัลละหะ กับ "แบม" อทิตยา  โปวานนท์ ไปได้ 2-0 เกม 21-10 , 21-17

ใช้เวลาแข่งขัน 38 นาที "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กับ "วิว" รวินดา ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปพบกับ คิม โซยอง กับ กอง ฮียอง คู่มือวาง 4 ของรายการ คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้ ที่เอาชนะ โชล์ว เบิร์ช กับ รอเรน สมิธ คู่มืออันดับ 18 ของโลกจากอังกฤษ 21-8, 21-11

 

              สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆที่น่าสนใจในรอบสองมีดังนี้ ประเภทหญิงเดี่ยว   ไถ้ ซื่อหยิง มือวาง 1 ของรายการ มืออันดับ 1 ของโลกจากไต้หวัน  ชนะ มิเชล ลี  มือวางอันดับ 8 ของรายการ มืออันดับ 10 ของโลกจากแคนาดา 21-11, 21-13

 

              ประเภทชายเดี่ยว โจว เทียนเฉิน มือวาง 2 ของรายการ มืออันดับ 2 ของโลกจากไต้หวัน  ชนะ ลี ซีเจี๋ย มือวางอันดับ 8 ของรายการ มืออันดับ 10 ของโลกจากมาเลเซีย 21-17, 21-15 , อึ้ง กาลอง อังกุส มือวางอันดับ 7 ของรายการ มืออันดับ 8 ของโลกจากฮ่องกง ชนะ ลี ชุ๊คยิว มืออันดับ 20 ของโลกจากฮ่องกง 21-17, 21-12 , แอนโทนี่ ซินนิซุกะ กินติ้ง มือวางอันดับ 5 ของรายการ มืออันดับ 6 ของโลกจากอินโดนีเซีย ชนะ ราสมุส เกมเก้  มืออันดับ 17 ของโลกจากเดนมาร์ก 2-1 เกม  21-14, 19-21, 21-5 , วิคเตอร์ อเซลเซ่น มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 4 ของโลกจากเดนมาร์ก ชนะ โจนาธาน คริสตี้ มือวางอันดับ 6 ของรายการ มืออันดับ 7 ของโลกจากอินโดนีเซีย   21-14 , 21-5

              ประเภทคู่ผสม ปราวีน จอร์แดน กับ เมลาติ เดว่า อ๊อตตาเวียนติ คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 4 ของโลกจากอินโดนีเซีย ชนะ แมททีอัส คริสเตียนเซน กับ อเล็กซานดร้า โบเจ้ คู่มืออันดับ 28 ของโลกจากเดนมาร์ก 2-0 เกม 21-19, 22-20  , ทอม กีร์เกล กับ เดลฟีน เดอรูร์ คู่มืออันดับ 15 ของโลกจากฝรั่งเศสชนะ มาร์ค แลมฟุ๊ท กับ อิซเบล เฮอร์ทริก คู่มืออันดับ 17 ของโลกจากเยอรมัน  21-19,  21-18

     

  ประเภทหญิงคู่  คิม โซยอง กับ กอง ฮียอง คู่มือวาง 4 ของรายการ คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้ ชนะ โชล์ว เบิร์ช กับ รอเรน สมิธ คู่มืออันดับ 18 ของโลกจากอังกฤษ 21-8, 21-11 ,  ลี โซฮี กับ ชิน ซองชาน คู่มือวาง 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 4 ของโลกจากเกาหลีใต้ ชนะ จาง ยีนา กับ คิม ฮุนริน คู่มือวาง 6 ของรายการ คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากเกาหลีใต้  21-15, 19-21, 21-15

              ประเภทชายคู่ รอบก่อนรองชนะเลิศ โก๊ะ วีแชม กับ ตัน วีเคียง คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากมาเลเซีย ชนะ เกา ซีเฟย กับ นอร์ อินซูดีน คู่มืออันดับ 28 ของโลกจากมาเลเซีย 21-16, 21-19 , ลีโอ โรลลี่ คานานโด กับ ดาเนียล มาร์ติน คู่มืออันดับ 70 ของโลกจากอินโดนีเซีย ชนะ  มาร์คัส เอลลิส กับ คริส แลงกริทซ์ คู่มืออันดับ 22 ของโลกจากอังกฤษ 12-21, 21-14, 21-15 , หลี่ หยาง กับ หวัง ฉีหลิน คู่มือวาง 6 ของรายการ  คู่มืออันดับ 7 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ ออง ยิวซิน กับ เตียว อียี่ คู่มืออันดับ 15 ของโลกจากมาเลเซีย 23-21,  21-15 , ชอย โซคู กับ ซอง แซโจว คู่มือวาง 7 ของรายการ คู่มืออันดับ 8 ของโลกจากเกาหลีใต้ ชนะ  โมฮาเหม็ด อัสซาน กับ เฮนดร้า เซเทียวาน คู่มือวาง 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 2 ของโลกจากอินโดนีเซีย  21-16, 21-19

              คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เผยถึงผลงานของนักกีฬาไทยหลังจบรอบนี้ว่า “โดยภาพรวมน่าเสียดายกับประเภทหญิงเดี่ยวที่พลาดท่าตกรอบทั้งสามคน หญิงคู่ที่วันนี้เราพบกันเอง กิ๊ฟวิวชนะรุ่นน้องไปตามความคาดหมาย ส่วน บาสป้อ ปราบคู่มาเลเซีย เป็นการย้ำแค้น ชาง เป็ง สูน กับ เกา ลุย หยิง เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกอีกครั้งหลังจากล่าสุดเคยชนะมาจาก World Tour Finals”

              “หญิงเดี่ยว เมย์รัชนก เล่นผิดพลาดไปเองทำให้เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป เล่นเข้าทางอันเซยองทำให้ผิดพลาดเองส่วนใหญ่ ขณะที่ ครีม น่าเสียดาย จังหวัดที่จะได้แต้ม ก็พลาดท่าไป เมย์ศุภนิดา เล่นได้ดีมาก เพียงแต่ว่ามารีนรายการนี้เขามาดี ฝากส่งแรงเชียร์นักแบดมินตันไทยในรอบรองชนะเลิศ ในประเภทหญิงคู่ จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ รวินดา ประจงใจ และ คู่ผสม เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ในวันพรุ่งนี้ด้วย” คุณหญิงปัทมา กล่าวทิ้งท้าย

              แฟนกีฬาแบดมินตันสามารถชมการถ่ายทอดสดการประชันฝีมือของนักแบดมินตันระดับโลกได้หลากหลายช่องทาง ทั้ง ทรูวิชั่นส์, ทรูโฟร์ยู, ทรู ยูทูป, ทรู เฟซบุ๊ก และทรูไอดี โดยทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดทุกคู่การแข่งขัน ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ผ่านทาง Truesports HD3 ช่อง 668, Truesports 7 ช่อง 686 และ Truesports HD2 ช่อง 667 และรับชมผ่านทางทรูโฟร์ยู เฉพาะคู่ที่นักกีฬาไทยลงทำการแข่งขันทุกวัน สำหรับรายการ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น จะถ่ายทอดสดวันเสาร์ที่ 16 ม.ค. ระหว่างเวลา 16.30-18.30 น. และวันอาทิตย์ที่ 17 ม.ค. ระหว่างเวลา 14.30-17.00 น.