แบดมินตันโยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น เริ่มวันนี้ เทคนิคยิงสดจัดเต็ม แฟนกีฬารอชมได้ทางบ้าน ตรวจโควิด 2 ครั้งแรกเป็นลบ ทุกคนปลอดเชื้อ
12 มกราคม 2564 – ประวัติศาสตร์แบดมินตันโลก เริ่มวันนี้ (12 มกราคม) ประเดิมด้วยศึก โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น เทคนิคการถ่ายทอดสดจัดเต็ม กล้อง 14 ตัวต่อสนาม และในจำนวนนี้ 5 กล้อง จะเป็นกล้อง Super Slow Motion, High speed ที่เวลา Replay จะได้ภาพที่มีคุณภาพสูงสุด คมชัดสวยงาม แฟนกีฬารอชมนักกีฬาระดับโลก และนักกีฬาชั้นแนวหน้าของไทย ได้ทางบ้าน ทางทรูวิชั่นส์ ทรูโฟร์ยู และช่องทางออนไลน์ของทรูฯ ส่วนการตรวจโควิด-19 ในนักกีฬา เจ้าหน้าที่ 22 ชาติ กว่า 800 คน ดำเนินการไปแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งผลใน 2 ครั้งแรก เป็นลบ ทุกคนปลอดเชื้อ
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “ประวัติศาสตร์วงการแบดมินตันโลก ซึ่งไม่มีชาติใด เคยจัดการแข่งขัน 3 รายการใหญ่ แบบรวดเดียว มาก่อน โดยเป็นรายการระดับเวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ถึง 2 รายการ และ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล อีก 1 รายการ จะเริ่มขึ้นในวันนี้ (12 มกราคม) โดยจะประเดิมรายการแรก ด้วยศึก "โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020" เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ระหว่างวันที่ 12-17 มกราคมนี้ ที่อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี”
“ทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา โค้ชและเจ้าหน้าที่ทีมทั้งหมดตื่นเต้นมาก เพราะเฝ้ารอมานาน รอวันที่จะได้เริ่มประลองฝีมือกัน ได้แข่งขันกัน ได้พบนักกีฬาประเทศต่าง ๆ ซึ่งถึงแม้จะต่อสู้กันในสนาม แต่นอกสนามคือ เพื่อนที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน คือมีความรักในกีฬาแบดมินตัน เราได้เตรียมพร้อมสำหรับเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้การแข่งขันในวันแรกเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด การจัดการแข่งขันในแบบ นิวนอร์มอล เป็นเรื่องใหม่ ที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่เราพยายามวางแผนและดำเนินการอย่างดีที่สุด รอบคอบที่สุด”
นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวต่อว่า “อุปกรณ์การแข่งขันต่าง ๆ อยู่ในสภาพพร้อมสมบูรณ์สำหรับการแข่งขัน รวมถึงระบบแสง สี เสียง ฉากต่าง ๆ เพื่อสร้างสีสัน และเผยแพร่ศักยภาพการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกของไทยออกสู่สายตาแฟนกีฬาทั่วโลก เราจะได้เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยออกสู่สายตาของชาวโลกกว่า 3,000 ครัวเรือนผ่านการถ่ายทอดสด ขอเชิญชมวิดีโอเปิดตัวนักกีฬา ซึ่งจะเป็นภาพเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมไทย สำหรับเพลงธีมที่ใช้ตลอดการแข่งขันที่จะถูกนำเสนอต่อชาวโลก มีการผสมผสานความเป็นไทยกับความเป็นสากลของการแข่งขันครั้งนี้ ความยากที่สลับซับซ้อนในบทเพลงพยายามสะท้อนถึงความยากทั้งทางเทคนิคมาตรการต่างๆ และศักยภาพที่มากมายหลายด้านของประเทศไทยในการจัดการแข่งขันครั้งนี้”
คุณหญิงปัทมา กล่าวว่า “ในวันแข่งขันจริง จะมีสนามทั้งหมด 3 สนาม ที่ผ่านมาได้มีการซักซ้อมเรื่องการเดินเข้าสนามให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด สำหรับตารางการแข่งขันวันแรก เริ่มเวลา 09.00 น. สนาม 1 และ 2 จะมีการแข่งขันสนามละ 13 คู่ ส่วนสนาม 3 จะมีการแข่งขัน 12 คู่ รวมจะมีการแข่งขัน 38 คู่ จะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันในสนาม 1 และ 2 โดยจะมีกล้อง 14 ตัวต่อสนาม และในจำนวนนี้ 5 กล้อง จะเป็นกล้อง Super Slow Motion, High speed ที่เวลา Replay จะได้ภาพที่มีคุณภาพสูงสุด คมชัดสวยงาม นอกจากนี้ แต่ละคอร์ตยังมีกล้อง Hawkeye อีก คอร์ตละ 10 ตัว เพราะฉะนั้น ท่านผู้ชมจะได้ชมภาพทุกมุมผ่านทางทรูวิชั่นส์ ทรูโฟร์ยู และช่องทางออนไลน์ของทรูฯ เหมือนกับได้เข้ามานั่งชมด้วยตนเองในสนาม ส่วนสนาม 3 จะเป็นการถ่ายทอดสดแบบ Streaming รวมทั้งหมดจะมี 38 คู่”
“การแข่งขันวันแรกประเดิมสนามด้วยนักกีฬาไทยหญิงเดี่ยว “ครีม” บุศนันท์ อึ๊งบำรุงพันธ์ มืออันดับ 12 ของโลก จะพบ ซาบรีน่า จาเกวสท์ มืออันดับ 49 ของโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งในวันแรก จะมีนักกีฬาไทยลงแข่งขันทั้งสิ้น 12 คู่ โดยการเดินลงสนาม นักกีฬาต้องเดินแบบทิ้งระยะห่าง ระหว่างแข่งขัน จะไม่มีการส่งลูกขนไก่แบบมือต่อมือ นักกีฬาต้องไปหยิบเองจากเครื่องที่วางไว้ท้ายคอร์ต และต้องทิ้งลูกขนไก่ที่ต้องการเปลี่ยนลงถังที่เตรียมไว้ให้เท่านั้น เมื่อนักกีฬาแข่งขันเสร็จแล้วจะต้องกลับไปที่ห้องพักที่โรงแรม ไม่มีการจัดที่นั่งให้ทีมรออยู่ที่สนามแข่งขัน แต่โค้ชสามารถรออยู่ที่สนามแข่งขันได้กรณีมีนักกีฬาชาติร่วมแข่งขันหลายคน”
“ส่วนการตรวจโควิด-19 ในนักกีฬา เจ้าหน้าที่ 22 ชาติ กว่า 800 คน ดำเนินการไปแล้ว 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มกราคม ซึ่งผลใน 2 ครั้งแรก ออกมาเป็นลบ ทุกคนปลอดเชื้อ” คุณหญิงปัทมา กล่าว
สำหรับ แฟนกีฬาแบดมินตัน สามารถชมการถ่ายทอดสดการประชันฝีมือของนักแบดมินตันระดับโลกได้หลากหลายช่องทาง ทั้ง ทรูวิชั่นส์, ทรูโฟร์ยู, ทรู ยูทูป, ทรู เฟซบุ๊ก และทรูไอดี โดยทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดทุกคู่การแข่งขัน ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ผ่านทาง Truesports HD3 ช่อง 668, Truesports 7 ช่อง 686 และ Truesports HD2 ช่อง 667 และรับชมผ่านทางทรูโฟร์ยู เฉพาะคู่ที่นักกีฬาไทยลงทำการแข่งขันทุกวัน รายการ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น จะถ่ายทอดสดวันอังคารถึงพุธ ระหว่างเวลา 16.30-19.00 น. วันพฤหัสบดีถึงศุกร์ ระหว่างเวลา 14.30-18.00 น. วันเสาร์ ระหว่างเวลา 16.30-18.30 น. และวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 14.30-17.00 น.