แบดมินตันเวิลด์ทัวร์ครั้งประวัติศาสตร์พร้อมเปิดฉาก "โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น” อังคารนี้ ขนไก่ไทยพร้อมไล่ล่า ลุ้นตั๋วเข้าชิงHSBC World Tour Finals

แบดมินตันเวิลด์ทัวร์ครั้งประวัติศาสตร์พร้อมเปิดฉาก

 

 

 

11 มกราคม 2564 – ยอดนักแบดมินตันระดับโลกพร้อมแล้วที่จะลงประชันฝีมือในศึกเวิลด์ทัวร์ 3 รายการใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ประเดิมด้วยรายการ "โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น" เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะเปิดฉากชิงชัยรอบแรกในวันพรุ่งนี้ (12 ม.ค.) โดยผู้เล่นไทยตั้งเป้าทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อไล่เก็บคะแนนสะสมสำหรับคว้าตั๋วลุยรายการสุดท้ายปลายเดือน พร้อมเชิญชวนแฟนแบดมินตันอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ด้วยการชมและเชียร์นักแบดมินตันไทยผ่านการถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์ทุกแพลตฟอร์ม

              ศึกดวลลูกขนไก่ 3 รายการใหญ่ที่เมืองไทย เตรียมเปิดฉากด้วย รายการ "โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น" เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างวันที่ 12 - 17 มกราคม ต่อด้วยรายการ "โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น" เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างวันที่ 19 - 24 มกราคม และ “เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020” ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างวันที่ 27 - 31 มกราคม ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดผ่าน 3,000 ล้านครัวเรือนทั่วโลก ส่วนในประเทศไทย ทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดให้แฟนกีฬาได้รับชมแบบจุใจ

              โดยวันนี้ (11 ม.ค.) นักแบดมินตันจาก 22 ชาติได้ลงฝึกซ้อมที่สนามแข่งขันจริงเป็นวันที่สอง ท่ามกลางบรรยากาศแบบนิวนอร์มอลตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวดเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด ส่วนสนามแข่งขันทั้ง 3 สนาม และอุปกรณ์ต่างๆ อยู่ในสภาพพร้อมสมบูรณ์ในการเป็นสังเวียนประชันฝีมือของเหล่านักแบดมินตันระดับโลก รวมถึงระบบแสง สี เสียง ฉากต่างๆ เพื่อสร้างสีสัน และเผยแพร่ศักยภาพการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกของไทยออกสู่สายตาแฟนกีฬาทั่วโลกตลอดเดือนมกราคมนี้ ซึ่งจะปิดท้ายด้วยรายการ "เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020" ชิงเงินรางวัลสูงถึง 1,500,000 ระหว่างวันที่ 27 -31 มกราคม 2564 ซึ่งจะมีเพียง นักแบดมินตันที่ทำคะแนนสะสมใน HSBC Road to Bangkok Finals ที่ดีที่สุดอันดับ 1-8 ของแต่ละประเภท โดยให้สิทธิ์นักกีฬาจากชาติเดียวกันคว้าตั๋วรอบไฟนอลเพียงแค่ 2 ใบในแต่ละประเภท ที่จะได้ลงช่วงชิงความเป็นหนึ่ง

              สำหรับผลงานของนักแบดมินตันไทย ที่ทำคะแนนสะสมใน HSBC Road to Bangkok Finals ที่ดีที่สุดอันดับ 1-8 มีเพียงแค่ประเภทหญิงเดี่ยวเท่านั้น ได่แก่ “เมย์" รัชนก อินทนนท์ ที่เก็บคะแนนนสะสมอยู่ในอันดับ 3 มี 23,250 คะแนน และ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ที่เก็บคะแนนนสะสมอยู่ในอันดับ 4 มี 22,460 คะแนน

              ด้านชายเดี่ยว "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ เก็บคะแนนนสะสมอยู่ในอันดับ 13 มี 17,700 คะแนน และ "กัน" กันตภณ หวังเจริญ เก็บคะแนนนสะสมอยู่ในอันดับ 36 มี 9,110 คะแนน, หญิงคู่ "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ "วิว" รวินดา ประจงใจ เก็บคะแนนนสะสมอยู่ในอันดับ 16 มี 16,890 คะแนน, "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย กับ "เอิร์ธ" พุธิตา สุภจิรกุล เก็บคะแนนนสะสมอยู่ในอันดับ 22 มี 14,390 คะแนน, คู่ผสม "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย เก็บคะแนนนสะสมอยู่ในอันดับ 15 มี 17,400 คะแนน

              การแข่งขันรายการ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น และ โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น จะเป็นสนามสำคัญให้กับนักกีฬาเร่งทำผลงานไล่เก็บคะแนนสะสมเพื่อคว้าตั๋วเข้าไปเล่นในรายการ เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ ซึ่งรวมถึงนักแบดมินตันไทยอย่าง "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์, "กัน" กันตภณ หวังเจริญ, "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ "วิว" รวินดา ประจงใจ, "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย กับ "เอิร์ธ" พุธิตา สุภจิรกุล, คู่ผสม "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ที่มีโอกาสที่จะคว้าตั๋วรอบไฟนอลเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

แฟนแบดมินตันสามารถชมการแข่งขันผ่านทาง True4U เฉพาะคู่ที่นักกีฬาไทยลงทำการแข่งขันทุกวัน โดยรายการ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น จะถ่ายทอดสดวันอังคารและวันพุธ (12-13 ม.ค.) ระหว่างเวลา 16.30 - 19.00 น. วันพฤหัสบดีและวันศุกร์ (14-15 ม.ค.)   ระหว่างเวลา 14.30 – 18.00 น. และวันเสาร์ (16 ม.ค.) ระหว่างเวลา 16.30– 18.30 น. วันอาทิตย์ (17 ม.ค.) ระหว่างเวลา 14.30 - 17.00 น.,