ทัพนักแบดซีเกมส์ 2019 เดินทางกลับถึงไทยแล้ว หลังทำผลงาน 8 เหรียญ

ทัพนักแบดซีเกมส์ 2019 เดินทางกลับถึงไทยแล้ว  หลังทำผลงาน 8 เหรียญ

ทัพนักแบดซีเกมส์ 2019 เดินทางกลับถึงไทยแล้ว 

หลังทำผลงาน 8 เหรียญ ลุยต่อทันทีศึก"เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล"

 

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2562 ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มอบให้ พลอากาศเอก มณฑล สัชฌุกร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของสมาคมฯ เป็นผู้แทน เดินทางไปมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีจากนายกสมาคมฯ ให้คณะนักกีฬาแบดมินตันชุดซีเกมส์ 2019 ที่เข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยพลตำรวจโท วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้จัดการทีม นำทีมเดินทางกลับสู่ประเทศไทย

 

ผลงานนักแบดมินตันไทยในซีเกมส์ 2019 ทีมแบดมินตันไทยคว้ามาได้ 8 เหรียญ 1 เหรียญทองจากประเภททีมหญิง

2 เหรียญเงินจากประเภทหญิงคู่ "เบส" ชญานิษฐ์ ฉลาดแฉลม กับ "จ๋อมแจ๋ม" ไผทมาส เหมือนวงศ์ และ ประเภทชายคู่  "อาท" บดินทร์ อิสสระ กับ "เอ" มณีพงศ์ จงจิตร

5 เหรียญทองแดงจากประเภททีมชาย ประเภทชายเดี่ยว ''กันต์'' กันตภณ หวังเจริญ และ '' โอ๊ต'' สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ ประเภทหญิงเดี่ยว ''หมิว'' พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ และ ''แน็ต'' ณิชชาอร จินดาพล

 

 

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงผลงานในซีเกมส์ครั้งนี้ว่า “สำหรับกีฬาแบดมินตันในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์  ถือเป็นการแข่งขันระดับโลก เพราะมีประเทศมหาอำนาจในกีฬาแบดมินตันทั้งอินโดนีเซียและมาเลเซีย ซึ่งทั้ง 2 ประเทศนี้ ส่งนักกีฬาระดับโลกเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งต่างมีผลงานที่ดี ทั้งในรายการเก็บคะแนนสะสมโลก ตลอดจนเคยประสบความสำเร็จ คว้าเหรียญจากการแข่งขันโอลิมปิกครั้งล่าสุดมาแล้ว“

         “ในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ ในประเภทบุคคล ที่ทีมไทยพลาดหวังไม่สามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้ ลำดับแรก ขอชื่นชมผลงานของ “เอ-อาท” และ “เบส-จ๋อมแจ๋ม” ที่คว้าเหรียญเงินมาได้ ต้องยอมรับว่า นักกีฬาที่ลงแข่งขันในประเภทเดี่ยว ทำผลงานไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งสมาคมฯ จะนำบทเรียนและข้อผิดพลาดมาเร่งแก้ไข เพื่อเตรียมการสำหรับการสะสมคะแนนเพื่อร่วมแข่งขันโอลิมปิกโตเกียว 2020 ต่อไป”

         “นอกจากนี้ สมาคมฯ ได้วางเป้าหมายหลักไว้ที่โอลิมปิกโตเกียว 2020 จึงตัดสินใจให้นักกีฬาที่เป็นความหวังเหรียญทองประเภทบุคคลของไทย ไม่ร่วมแข่งขันในประเภทบุคคลซีเกมส์ โดยต้องเดินทางไปเตรียมตัวแข่งขัน "เอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล 2019" วันที่ 11-15 ธ.ค. หญิงเดี่ยว "เมย์" รัชนก อินทนนท์ และ "ครีม" บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์, หญิงคู่ "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิตติธรากุล กับ "วิว" รวินดา ประจงใจ และ คู่ผสม "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย เพื่อให้นักกีฬามีความสมบูรณ์สูงสุด ไม่มีอาการเหนื่อยล้าจากการแข่งขันและการเดินทาง เพื่อให้นักกีฬาสามารถเก็บคะแนนสะสมสูงที่สุด เป็นมือวางของการแข่งขันโอลิมปิก 2020 เป็นการเพิ่มโอกาสในการคว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งขันโอลิมปิก“

 

“การแข่งขัน "เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล" เป็นรายการที่นำเอาสุดยอดนักกีฬาแบดมินตันที่เก็บคะแนนสะสมทัวร์นาเมนต์ระดับเอชเอสบีซี บีดับบลิวเอฟ เวิลด์ทัวร์ ดีที่สุด 8 อันดับแรกของโลกในแต่ละประเภทมาเข้าร่วมแข่งขัน สมาคมฯ ตั้งเป้าให้นักกีฬาแบดมินตันกลุ่มเป้าหมายสามารถมุ่งเน้นเก็บคะแนนสะสม เพื่อเป็นมือวางในการแข่งขันโอลิมปิก ทั้ง “เมย์”  และ “บาส-ปอป้อ” คะแนนได้ไปโอลิมปิกแน่นอนแล้ว แต่ต้องให้ทั้งคู่เก็บคะแนนสะสมติดท็อป 4 ของโลก เพื่อการวางสายการแข่งขัน เพิ่มโอกาสการคว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกโตเกียว 2020”

 

        “ในส่วนของ “กิ๊ฟ-วิว” ต้องเร่งเก็บคะแนนสะสมเพื่อรักษาท็อป 8 ของโลก และเป็นมือวางในการแข่งขัน

โอลิมปิกโตเกียว 2020 อันจะส่งผลให้การแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม ไม่ต้องเจอคู่มืออันดับโลก 2 คู่ เป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ สำหรับ “ครีม” ตอนนี้มีคะแนนสะสมอยู่ในเกณฑ์ที่น่าจะได้ไปร่วมแข่งขันโอลิมปิกโตเกียว 2020 ในฐานะหญิงเดี่ยวคนที่ 2 ของไทย แต่ยังต้องรักษาฟอร์มการเล่น และเก็บสะสมคะแนนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นท็อป 16 ของโลก ในช่วงปลายเดือน เม.ย.63 ซึ่งการเข้าร่วมแข่งขัน "เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล" จะช่วยให้ “ครีม” ได้คะแนนสะสมเพิ่มเติม หากทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ยิ่งเพิ่มโอกาสในการเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกโตเกียว 2020” คุณหญิงปัทมากล่าว